ผ่านมาสักพักแล้วที่หลายบริษัทเริ่มให้พนักงาน “ Work From Home” ในช่วง COVID19 เพราะสถานการณ์บังคับจึงบีบให้การทำงานผ่าน Online เข้ามาประชิดตัวเราอย่างรวดเร็ว หลายคนรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ทำงานแบบใหม่ แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ข้อจำกัดและข้อเสียของการ Work From Home ก็ค่อยๆ แสดงออกมาให้เราเห็น เมื่อขอบเขตการทำงานมันช่างยืดหยุ่นเบียดช่วงเวลาที่เคยใช้ชีวิตของเราจนอึดอัด
จาก Work From Home กลายเป็น “Work Forever” เมื่อความฉลาดของเครื่องมือที่ใช้ทำงานผ่าน Online มีคำโปรยสุดเก๋ไก๋ใช้ได้จริงว่า “ทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา” กลายเป็นว่าเวลาที่เราใช้ในการทำงานก็กว้างขึ้นตามไปด้วย งานด่วน งานเร่งก็หมดอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งความจริงมันก็เป็นข้อดีของการทำงานนะ แต่ก็มีข้อเสียที่น่าหนักใจ เพราะมีแนวโน้มให้เราทำงานล่วงเวลาจนเราเองไม่รู้ตัว พอดูเวลาอีกทีก็เลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว
.
เมื่อไม่มีเส้นแบ่งของการทำงานและชีวิตส่วนตัว ชาว Work From Home ก็เริ่มสะสมความเครียดมากขึ้น อ้างอิงจากงานวิจัยปี 2017 ของ United Nations ชี้ให้เห็นว่า 41% ของพนักงานที่ Work From Home ประเมินตัวเองว่า “เครียด” ซึ่งมากกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนของพนักงานที่ทำงานจากบริษัทแล้ว มีเพียงแค่ 25% เท่านั้น
.
#ทำงานได้ทุกที่ทำงานทุกเวลา เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็มีแต่มุมเดิมสลับเวียนทำงานไปเรื่อยๆ จนน่าเบื่อ ข้อเสียอีกอย่างนึงนอกจากเวลาทำงาน คือความจำเจของสถานที่ มุมที่เคยสบายใจก็กลายเป็นที่ทำงานไปแล้ว มองไปทางไหนก็เจอแต่ตัวเราที่ทำงานอยู่ โน๊ตบุ๊คตัวเดียวเชื่อมเราเข้ากับทุกอย่าง แม้จะสะดวกงานแต่กลับไม่ค่อยสะดวกใจสักเท่าไหร่
.
แต่ไม่เป็นไรนะ ! การทำงานแบบ Work From Home ยังเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชิน เราสามารถควบคุมเวลาการทำงานได้ด้วยการจด Note หรือระบุแนวทางการทำงานของเราและบริษัทให้ชัดเจน รวมถึงแบ่งระดับความเร่งด่วนของงาน เพื่อระบุความสำคัญว่าคุ้มค่ากับการที่เราต้องทำนอกเวลางานหรือเปล่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ (แต่หวังว่าคงไม่นานเกินไปสำหรับสถานการณ์ COVID19 นะ) แต่ไม่นานทุกอย่างจะเป็นระเบียบและลงตัวในที่สุด
.
จัดการความเครียดให้อยู่หมัด ! เก็บไว้คนเดียวไม่บอกใครต้องเครียดมากแน่ๆ เลย มาคุยกับอูก้านะ เรายินดีรับฟังไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ช่วงนี้เครียดๆ อยากระบายก็คุยกันเลย เรายินดีรับฟัง 🙂
Recent Comments