ใจที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม รู้สึกขาดและไม่พอ ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่มีวันสิ้นสุด

ผู้คนแสวงหาความสำเร็จ ความร่ำรวย ความรัก และการยอมรับ แต่การสะสมมากจนเกินความพอดี และในบางทีก็อาจจะเกิดจาก “กระบวนการคิดที่มีปัญหา” การขาดแคลนอาจไม่ได้เกิดจากการได้รับไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะ “ภาชนะหรือใจ” ที่กักเก็บความรู้สึกเหล่านั้น “มีรูรั่ว” จึงต้องหามาเติมตลอดเวลา รู้สึกดีได้แค่ชั่วคราว แม้เก็บจนมีมากกว่าทุกคนแล้วตัวเราเองก็ยังรู้สึกขาด

เราตามหาบางอย่างตามที่ตัวเราเองต้องการ สิ่งที่เรายึดติดในจิตใจ สิ่งที่สูญเสียในอดีตแทบจะเป็นทุกอย่างที่ควบคุมปัจจุบันและอนาคตของเรา เราจะสังเกตเห็นได้จากพฤติกรรมของเราซึ่งพยายามกักตุนสิ่งเหล่านั้นเอาไว้กับตัว แต่ #หัวใจที่มีรอยรั่ว จะเต็มยังไงให้เต็ม ?
.
หากเรามุ่งมั่นในการทำงานทุ่มเทจนสุดกำลัง จริงๆ เป็นเรื่องที่ดีแต่สิ่งที่ตามมาอาจเป็นพฤติกรรม “Workaholic” ที่เสพติดการทำงาน รักความสำเร็จและไม่ชอบความล้มเหลว ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ไม่สมดุลกัน
.
หรือคนที่หัวใจมากรัก “Casanova” อาจจะกักตุนความรักได้อย่างเปี่ยมล้นได้รับความนิยมชมชอบ แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ต้องการ ยังคงหาใครมาเติมเต็มความรู้สึกนั้นอยู่เสมอ กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีคนล้อมตัวไว้มากมายแต่กลับไม่ได้รับความรักที่ต้องการ
.
#เงินทองเป็นตัวเลขที่ไม่มีวันหยุด เราอาจจะรักการสะสมเงินหลงใหลกับการมีเงินทอง ยอมแลกทุกอย่าง ทั้งเวลา ทั้งความสุข ทั้งศีลธรรม เพื่อแย่งเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยคิดเสมอว่าตัวเองจนหรือไม่เคยเลยที่จะประสบความสำเร็จ
.
คนที่ชอบพูดจาโอ้อวด สร้างภาพเป็นผู้เชี่ยวชาญใหญ่โต หรือพูดจุดอ่อนและเน้นย้ำข้อเสียของคนอื่น เพื่อกดคนอื่นให้ต่ำลง อาจกำลังมีปัญหากับ self – esteem ของตัวเอง คล้ายๆ กับถ้าเราขึ้นสูงกว่านี้ไม่ได้ก็เอาคนอื่นลงมาสิ ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขแต่ถูกซุกไว้ที่ไหนสักแห่งในหัวใจของเรา
.
เราสามารถแก้ไขความเชื่อที่บกพร่องในจิตใจของเราได้ เช่น ใช้ CBT approach หรือแนวคิดอื่นๆ มาช่วยสร้างความเข้าใจให้กับเรา แต่แน่นอนว่าทุกอย่างต้องมีจุดอ่อนเพราะหากยินยอมที่จะแก้ไขในจุดนี้ เราอาจจะต้องปรับสมดุลกับตัวเองใหม่ เราอาจสูญเสีย energy ที่มุ่งมั่นไป เราอาจไม่ได้ popular ในหมู่คนมากมายเหมือนที่เคย หรือไม่ได้มีความทะเยอทยานที่จะพาให้ตัวเองไปอยู่ที่หนึ่ง แต่เราและครอบครัวจะมีความสุขมากขึ้น สโลว์ไลฟ์มากขึ้น ให้ความสำคัญกับมิติต่างๆ ในชีวิตได้อย่างสมดุลมากขึ้น
.
ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เมื่อเราไปถึงจุดสมดุลของชีวิตแล้ว เรื่องที่เป็นจุดอ่อนที่กล่าวมาคงจะเป็นเรื่องที่ตัวคุณยอมรับได้แล้วในที่สุด