บรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก ได้ยินแต่เสียงกระซิบเบาๆ และเสียงฝีเท้า ทุกคนล้วนอยู่ในโลกของตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โทนสีขาว มีแสงสว่างส่องถึงตลอด การเคลื่อนไหวของคนเป็นไปอย่างช้าๆ และเป็นจังหวะ
.
จากคำบรรยายข้างต้น ทุกคนนึกถึงสถานที่ไหนกัน
สำหรับเรา เรานึกถึงหอศิลป์ หรือมิวเซียมที่แสดงงานศิลปะต่างๆ
เรารู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้เข้ามาเดิน เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่ง ซึ่งไร้ความวุ่นวาย มีแต่ความเงียบ เรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยพลังบางอย่างจากงานศิลปะที่เรียงรายรอให้เราไปชมอยู่
.
หลายครั้งเวลาที่เราเครียด เหนื่อยล้าจากการทำงานบนโลกแห่งความจริง เราจะพยายามหาเวลาไปหอศิลป์เพื่อฟื้นฟูจิตใจของเราให้กลับมาอยู่กับตัวเอง ได้คิดอะไรต่างๆ ในหัวที่ไม่ใช่เรื่องงาน การไปดูงานศิลปะเยอะๆ จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้เราด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป็นการผ่อนคลายความเครียด ความกังวลที่มีอยู่ในใจเรา เพิ่มสมาธิให้เราจดจ่ออยู่กับสิ่งต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
.
การไปหอศิลป์ในเวลาที่เรารู้สิ่งดิ่งมากๆ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใครเท่าไหร่ มันกลับช่วยดึงอารมณ์เราให้ขึ้นมา จากดาวน์มากๆ ก็ดีขึ้นกว่าเดิม มันเป็นเรื่องที่ดีนะ ซึ่งอันที่จริง สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปเดินหอศิลป์ ไม่ได้ไปอยู่ในบรรยากาศนั้นๆ เราสามารถชื่นชมผลงานศิลปะตามตรอกซอกซอยที่เราเดินผ่านก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น graffiti หรือผลงานที่อยู่ตามตึก ร้านอาหาร สถานที่ต่างๆ ที่เราไป แค่ใช้เวลากับมันเพียงเล็กน้อย เราว่ามันทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้จริงๆ นะ
.
ศิลปะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยพักใจของเราให้หายเหนื่อย บางคนอาจคิดว่ามันเข้าใจยาก ดูนามธรรมมากเกิน จริงๆ เราว่าไม่ต้องทำความเข้าใจมันหรอก แค่เรามีสมาธิอยู่กับสิ่งที่เราเห็นตรงหน้า จ้องสิ่งนั้นนานๆ อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด แค่นี้ใจเราก็ได้พักจากความกังวลแล้วแหละ
.
หากใครยังมีความรู้สึกกังวล เครียดอยู่ ถึงแม้จะได้ชื่นชมผลงานศิลปะมาแล้ว ก็อยากลองให้เข้ามาพูดคุยปรึกษากับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านแอปพลิเคชัน ooca นะ อูก้าจะช่วยดูแลและเยียวยาใจอีกแรง เรายินดีที่จะรับฟังทุกคนเสมอ
Recent Comments