เราจมอยู่กับความเศร้าตลอดเวลา แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเดินหน้าต่อไปได้ ?
.
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อของ ภาวะความเครียดหลังผ่านเหตุสะเทือนใจ (Post-Traumatic Stress Disorder : PTSD) ซึ่งเป็นอาการความเครียดที่บุคคลมีหลังจากผ่านเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ กระทบกระเทือนจิตใจ หรือวิกฤตที่รุนแรงของชีวิต เช่น บุคคลสำคัญที่ใกล้ชิดเสียชีวิต ทหารผ่านศึก การถูกคุกคามทางเพศ แล้วมีผลต่อภาวะจิตใจ ทัศนคติ การปรับตัวของชีวิตในสังคม อาการที่มักพบร่วมด้วยคือซึมเศร้า มีการใช้สารเสพติด หรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์
.
ความเศร้านี้อาจจะกินระยะเวลานานก็จริง แต่ชีวิตคนเรามันก็มีความหวังเสมอ มีคนหลายคนที่สามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมาได้ จนทำให้พวกเขาเกิดความงอกงามขึ้นในใจ มีการเปลี่ยนแปลงในทางบวก และนำสิ่งที่ประสบพบเจอมาพัฒนาแง่มุมบางอย่างในตัวเอง เราเรียกว่า Posttraumatic Growth หรือความงอกงามภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนใจ
.
ลองมาทำความเข้าใจกันว่า Posttraumatic Growth สามารถแบ่งได้เป็น 3 องค์ประกอบหลัก ซึ่งแบ่งเป็นองค์ประกอบย่อย 5 อย่าง ดังนี้
1. การเปลี่ยนมุมมองตนเอง
1.1 การค้นพบความเข้มแข็งในตนเอง เป็นการที่บุคคลรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น มันทั้งอันตรายและคาดกรณ์ไม่ได้ หากตนเองผ่านมันมาได้ ก็คงไม่มีอะไรจะต้องกลัวแล้วล่ะ
1.2 การค้นพบโอกาสใหม่ๆ บุคคลจะสามารถค้นพบเส้นทางใหม่ของชีวิต กิจกรรมใหม่ๆ ความสนใจใหม่ได้ หลังเกิดการเติบโตงอกงาม
.
2. การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
บุคคลจะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับบุคคลอื่นๆ รอบตัว เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย สามารถเปิดเผยตัวตนและยอมรับตัวตนด้านที่สังคมอาจไม่ยอมรับได้ และอาจรวมถึงการได้ค้นพบว่าใครคือมิตรแท้ในชีวิตเรา
.
3. การเปลี่ยนแปลงในแง่ของปรัชญาชีวิต
3.1 การชื่นชมยินดีในชีวิต บุคคลจะตระหนักรู้ว่าชีวิตมีคุณค่า มีความหมาย ความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคนใกล้ชิดอาจสำคัญกว่าความสำเร็จหรือความมั่งคั่ง มองบางเรื่องในอดีตที่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ว่ามีความสำคัญมากขึ้น
3.2 การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ บุคคลจะตระหนักรู้ความหมายและเข้าใจในชีวิต มีความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น
.
การที่บุคคลจะเปลี่ยนความคิด ความเศร้า จากเหตุการณ์ต่างๆ มาเป็นมุมมองเชิงบวกได้นั้น อาจเกิดได้จากการวิเคราะห์ตนเอง เปิดเผยตนเองผ่านการพูดคุย และเขียน เพื่อแชร์กับคนอื่นมากขึ้น หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความคิด จัดการกับอารมณ์ของตนเองได้เพิ่มมากขึ้น ยอมรับในความเป็นจริง มุมมองก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สุดท้ายแล้วบุคคลก็จะพบความสุข พบความหมายของการมีชีวิตอยู่
.
หันมาใส่ใจกับเรื่องดีๆ ที่เล็กๆ น้อยๆ เปลี่ยนมุมมองที่ว่า การเจ็บป่วยนี้ทำให้ชีวิตเราแย่ลง โทษตัวเองตลอดเวลา มาเป็นการคิดว่าความเจ็บป่วยครั้งนี้สอนและมอบอะไรหลายๆ อย่างให้เรา อาจจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก ที่ยังคอยอยู่เคียงข้างกับเรา คุณหมอที่ใจดี ดูแลเอาใจใส่เรา ยิ้มให้กับความสุขง่ายๆ ในชีวิต
บางทีการใช้ชีวิตอยู่กับ PTSD ก็อาจจะไม่ได้แย่แบบที่คิดก็ได้ 😊
.
เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังเผชิญกับอาการข้างต้น แล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ อยากให้ลองมารับคำปรึกษาจากพี่ๆ จิตแพทย์และนักจิตวิทยาของอูก้าดู เพราะว่าเรื่องของใจให้เรารับฟัง อูก้าพร้อมช่วยเหลือและดูแลทุกคนเสมอนะ
Recent Comments