“อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน”
.
เราคิดมากเกินไปมาตลอด โดยเฉพาะกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ความกังวลที่มีมันค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเมื่อเราคิดถึงอนาคต บางทีมันก็ทำให้เราไม่มีมีสมาธิที่จะทำอะไรในปัจจุบันเลย อยากจะโยนความคิดในหัวทิ้งให้โล่งๆ แต่เราก็ทำไม่ได้ หลายครั้งเราเห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีมากๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย เรายิ่งอดคิดไม่ได้ว่า อนาคตเราจะต้องทำให้ได้ดีเหมือนเขา มีชีวิตที่ดี ที่น่าพอใจ


.
จริงๆ เรารู้มาตลอดนะ ว่า “อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน” ไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้หรอก แต่ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์เหมือนกัน ที่จะอยากควบคุม อยู่เหนือทุกอย่าง คาดหวังให้ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ใจคิด เราพยายามห้ามความคิดตัวเองแล้วนะ แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งทำให้คิดมากขึ้น
.
นอกจากเราจะเครียดเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวแล้ว ข่าวสารในปัจจุบันก็ทำให้เรายิ่งกังวลเข้าไปอีก ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ ไม่มีอะไรที่แน่นอนสักอย่าง ฟังข่าวแล้วก็เศร้า ทำไมชีวิตมันอยู่ยากจัง อยากจะว้าปหายไปสักพัก ไปชาร์จพลังแล้วค่อยกลับมาสู้รับมือกับทุกอย่างต่อ เพราะยิ่งรับข้อมูลเข้ามามากเท่าไหร่ ความกังวลใจก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
.
เราเพิ่งมาตกตะกอนอะไรบางอย่างได้ว่า ในเมื่อเราดูข่าว ดูโซเชียลมีเดียมากเกินไป ถ้าเราลองลดทุกอย่างลง รับข่าวแต่พอดี กลับมาทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่สนใจ อยู่กับตัวเองมากขึ้น หรือทำ social media detox น่าจะเป็นความคิดที่ดี เรายังไม่ได้ลอง แต่คิดว่าจะลองเร็วๆ นี้แหละ ใครเคยทำแล้วได้ผล หรือไม่ได้ผลยังไง คอมเม้นต์มาบอกกันได้นะ
.
อีกอย่างหนึ่งที่คิดว่าน่าจะช่วยทำให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน คือ Mindfulness หรือการมีสติอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ ณ ขณะนั้น ฝึกใส่ใจกับความคิด อารมณ์ และความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ การฝึกก็ดูไม่ยากเลย เช่น การหายใจ ใช้เวลาเพียง 10-15 วินาที ตอนไหนก็ได้ตามที่เราสะดวก กลับมาโฟกัสที่ลมหายใจเข้าและออก รู้ตัวว่าเรากำลังหายใจอยู่นะ ตอนไหนที่กังวลหรือเครียดมากๆ ถ้าได้ลองแบ่งเวลาสักนิดมาฝึกหายใจ เราเชื่อว่ามันน่าจะช่วยแหละ เหมือนเป็นการพักสมองชั่วคราวด้วย
.
สุดท้ายนี้ หากเพื่อนๆ คนไหนยังรู้สึกกังวลมากๆ จนกระทบชีวิตประจำวัน แล้วจัดการกับความกังวลนั้นเองไม่ได้ อูก้าอยากชวนให้เข้ามาพูดคุยปรึกษากับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านแอปพลิเคชัน ooca ได้เลย อูก้าจะยินดีดูแลจิตใจและรับฟังเสมอนะ