เวลาที่เจอเรื่องแย่ๆ ถ้าไม่กี่ครั้งก็ยังพอทนไหว แต่ถ้าเจอบ่อยจนรับความเจ็บปวด ไม่ไหว อาจกลายเป็นความรู้สึก “ชินชา” ไม่ต่างจากคนไร้หัวใจ

ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม เราพร้อมจะก้มหน้ายอมรับสิ่งเลวร้าย เอาแต่บอกว่า “ไม่เป็นไร” ทั้งที่ข้างในแหลกสลายไปหมด เราไม่แสดงอารมณ์เสียใจ เศร้า โกรธ หรือร้องไห้ ปล่อยให้มันทำร้ายเราอยู่อย่างนั้น เราอาจกำลัง “Dead inside”

เราอาจเหมือนอยู่กับปัจจุบัน แต่จริงๆ แล้วที่ทุกคนมองเห็นอาจเป็นแค่ “กายหยาบ” ที่ไม่รู้จะตอบสนองอะไรได้อีก อาจเหมือนคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเรากำลัง “เอาตัวรอด” จากความรู้สึกที่บีบคั้นต่างหาก

มันไม่ใช่การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้รอด แต่เราเลือกใช้วิธีนิ่งเฉยและยอมจำนนกับปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่จะเข้ามา แม้เราจะไม่เห็นด้วยหรือไม่อยากทำแบบนั้นก็ตาม

คนที่เหลือแค่กายหยาบอาจคล้ายไม่สนใจอะไร เหมือนยอมแพ้ต่อโลกใบนี้ แต่ Dead inside นั้นต่างจาก “การปล่อยวาง” อยู่มากเพราะการปล่อยวางคือการที่เราเข้าใจและมองโลกในแบบที่มันเป็น พร้อมกับยอมรับว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วพยายามหาทางแก้ไข แต่ความรู้สึกด้านชาแบบคนที่ Dead inside คือการฝืนใจให้ปล่อยไป ไม่สนใจ ไม่รับรู้แล้วตัดจบทุกอย่างเพื่อใช้ชีวิตต่อไป

บางครั้งการที่เราไม่ใส่ความรู้สึกลงไปในสิ่งที่เจอ ก็ช่วยเราไว้เหมือนกัน เพราะเราจะได้ไม่ต้องบังคับตัวเองให้ฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือความสัมพันธ์ เมื่อพาตัวเองออกมาได้ก็ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้อีกแล้ว

แต่ถ้าเราปล่อยให้ความชินชานี้อยู่กับเราต่อไป มันอาจทำลายความสดใสและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของเราได้ ทำให้เราสูญเสียจุดมุ่งหมาย ใส่ใจสิ่งรอบตัวน้อยลง จนสุดท้ายเราอาจยอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มต้นด้วยซ้ำ

ถ้าเมื่อไรเราสังเกตตัวเองว่า “ความรู้สึก” เริ่มหายไป เหลือแต่กายหยาบที่ยังอยู่ตรงนี้ อย่าปล่อยให้ความนิ่งเฉยกลายเป็นเรื่องธรรมดา ลองหาทางดึงความรู้สึกของเรากลับมา ระบายหรือแสดงออกให้มากขึ้น แม้มันจะงี่เง่าหรือบ้าบอขนาดไหน ขอให้ระบายออกมา

ชีวิตที่มีความรู้สึกคือ การบอกตัวเองว่าเรายังอยู่ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็จงปล่อยให้ตัวเองรับรู้มัน อย่าให้สิ่งต่างๆ กัดกินเราจากข้างใน อย่ากักเก็บความรู้สึกเอาไว้เลยนะ เพราะเราทุกคนคู่ควรกับการมีความสุขเสมอ

ถ้าต้องการเติมพลังใจ ลองพักผ่อนให้เต็มที่แล้วออกไปหาความสุขให้ตัวเอง อูก้าอยากเห็นทุกคนมีรอยยิ้มและมีพลัง หากเหนื่อยล้าสามารถแวะมาพูดคุยกับนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ของอูก้าได้เสมอนะคะ