เราอาจตัดสินใจแค่เพียงเสี้ยววินาทีเพื่อส่งข้อความบางอย่างออกไป แต่ผลกระทบอาจรุนแรงมหาศาล การส่งต่อความเกลียดชังจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัว เมื่อเราพบเห็น Hate Speech อย่าเพิ่งรีบเข้าไปอยู่ตรงนั้น แต่ให้ใช้วิจารณญาณของตัวเองก่อนว่าจำเป็นไหมที่เราจะต้องส่งต่อสิ่งนั้น มันสร้างประโยชน์อะไรให้ชีวิตเราและสังคมหรือเปล่า?

ขอให้คุณหยุดคิดสักครู่…

คำพูดที่แสดงความเกลียดชัง (Hate Speech) เป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่เมื่อสังคมเริ่มสนใจใน Freedom of Speech เราจึงได้ยินสองคำนี้พร้อมกันอยู่บ่อยๆ เมื่อเราให้คุณค่ากับเพื่อนมนุษย์และมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะบอกว่า Hate Speech คือคำพูดที่ลดทอนคุณค่าบางอย่างและขัดขวางการแลกเปลี่ยนทางความคิดก็คงไม่ผิดนัก

สิ่งที่เราพบเจอบ่อยๆ คือการใช้ Hate Speech โจมตีเรื่องส่วนตัวเพื่อทำลายชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือของอีกฝ่าย เมื่อเราแตะส่วนที่เป็น “privacy” คนจะถูกโน้มน้าวได้ง่ายเพราะเป็นการสื่อว่าเรารู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง ซึ่งเรื่องส่วนตัวนั้นอาจจะตรวจสอบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่คนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นอย่างที่ข่าวลือพูดไว้ ที่น่ากลัวกว่านั้นอาจมีการใส่สีตีไข่เข้าไปอีกเพื่อสร้างกระแสให้คนหันมาสนใจ

เราจะระมัดระวังเรื่อง Hate Speech ได้อย่างไร ?

#คำตอบจากทีมงานอูก้า

เริ่มแรกเลยคือ การแชร์ความคิดเห็นสามารถทำได้ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป เมื่อไรที่เรา Over Sharing อย่างเช่นการส่งต่อข้อมูลไปเรื่อยๆ การใช้ข้อมูลผิดกับสถานการณ์ หรือใช้ข้อความที่มีนัยยะแอบแฝงทำให้เกิดการตีความที่ผิดเพี้ยนไปก็จะทำให้เกิด Hate Speech ได้

นอกจากนี้การตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นสำคัญมาก เราได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวหรือคนที่น่าเชื่อถือหรือไม่ มีการบิดเบือนข้อมูลหรือเปล่า เราต้องคิดเสมอว่าข้อความบางอย่างสามารถสร้างความแตกแยกได้และอาจก่อให้เกิดความรุนแรง จึงต้องมั่นใจว่าเราไม่ได้ใช้อารมณ์หรืออคติในการแสดงความคิดเห็น ต้องรู้จักที่จะควบคุมไม่ให้แสดงความคิดเห็นที่เกินเลยหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น

#คำตอบจากนักจิตวิทยา

ทุกวันนี้ Hate speech ถูกนำมาใช้โจมตีข้อเสียของคนอื่น เพื่อทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ซึ่งที่จริงแล้ว Hate speech นั้นไม่ได้มีต้นตอมาจากการเมือง แต่มาจากฐานความคิด ความเชื่อ ทัศนคติของคน เรื่องการเมืองเป็นแค่ตัวกระตุ้น ทำให้มันเติบโตบ่มเพาะความเกลียดชังขึ้น ปัญหาอยู่ที่ทัศนคติ อยู่ที่การยอมรับความเห็นที่แตกต่างอื่นๆในสังคม ถ้าเราเปิดใจให้กว้างและไม่ยัดเยียดความคิดของเราให้คนอื่น เมื่อแก้ตรงจุดนี้แล้ว Freedom of Speech จะถูกใช้ในทางที่เหมาะสมมากขึ้น

ในสื่อออนไลน์มีผู้นำเนื้อหาที่มีระดับความรุนแรงและลักษณะการสื่อสารแบบ Hate Speech ไปเผยแพร่ในวงกว้าง ที่พบมากที่สุดคือการยั่วยุทำให้เกิดความเกลียดชังที่ส่งผลกระทบต่อคนใดคนหนึ่ง เช่น ดารา ไฮโซ นักการเมือง ฯลฯ และที่น่ากังวลใจคือ Hate Speech สามารถกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมได้ถ้าทุกคนร่วมกันส่งต่อ ดังนั้นเราควรไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นออกไป

ผลจากการใช้ Hate Speech น่ากลัวขนาดไหน?

#คำตอบจากทีมงานอูก้า

การส่งต่อ Hate Speech ไม่ต่างจากการโยนหินใส่คนอื่น ไม่ว่าจะพูดต่อหน้าหรือบนโลกออนไลน์ก็น่ากลัวทั้งนั้น เพราะคำพูดสร้างบาดแผลที่มองไม่เห็น เราจึงไม่ทันได้นึกว่าผลกระทบของมันร้ายแรงแค่ไหน ไม่ใช่ทุกคนที่เข้มแข็งพอจะรับมือกับคำพูดร้ายๆ ได้ อย่าลืมว่าแต่ละคนมีพื้นฐานจิตใจที่แตกต่างกัน คำพูดที่เราฟังแล้วไม่รู้สึกอะไร สำหรับคนอื่นอาจกระแทกใจเขาเต็มๆ เลยก็ได้ สุดท้ายกลายเป็นสร้างความแตกแยกและทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้ใครบางคนหมดอนาคต สูญเสียคุณค่าในตัวเอง ไปจนถึงผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว

#คำตอบจากนักจิตวิทยา

มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายทศวรรษที่แสดงให้เห็นว่า Hate Speech อาจก่อให้เกิดบาดแผลทางจิตใจอย่างมากต่อผู้ที่ได้รับข้อความโดยตรงและสังคมโดยรวม ซึ่งการแบ่งปันคำพูดแสดงความเกลียดชังบนโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่สร้างความบอบช้ำให้กับทั้งเหยื่อและผู้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้คนอื่นที่เห็นข้อความนั้นมีอารมณ์ที่รุนแรงและมีอคติมากขึ้นไปด้วย

หากปล่อยให้มีการสร้างและเผยแพร่ความเกลียดชังเกิดขึ้นต่อไปโดยไม่มีใครพยายามควบคุม ก็อาจจะทำให้สังคมขาดสมดุลทางความคิด ทำลายวัฒนธรรมแห่งการเคารพซึ่งกันและกัน คุกคามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และที่สุดก็ส่งผลต่อภาพรวมของคุณธรรมในสังคมนำไปสู่การเข้าไปสกัดกั้นหรือทำลายบรรยากาศแห่งเสรีภาพในการแสดงออก

.

ทุกวันนี้การพูดคุยกันแทบจะอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งหมด ในพื้นที่ๆ เราไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน เราอาจพบว่าการส่งต่อความเกลียดชังนั้นทำได้ง่ายมาก แค่คลิ๊กเดียวก็ทำให้คนอื่นเสียใจได้แล้ว ดังนั้นถ้าสิ่งที่เรากำลังจะโพสต์หรือแชร์ไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร ขอให้ข้ามมันไปก่อน

แม้ว่า Hate Speech จะยังไม่หมดไป แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ทำร้ายใครให้เขาต้องเจ็บปวดกว่าเดิม

อูก้าสนับสนุนการแสดงความคิดต่างอย่างมีเหตุผลและอยากให้ทุกคนส่งต่อสิ่งดีๆ ให้แก่กันนะคะ หากใครอยากพูดคุยกับนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ของอูก้าสามารถทักมาได้เลย