“โปร 9.9 เอามาอย่างละหนึ่ง”

“ลดแลกแจกแถมเยอะขนาดนี้ ก็ซื้อไปเลยสิคะ” 💳💶

ในช่วงที่ต้องอยู่แต่ในบ้านเพราะสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ หลายคนแทบจะเสียเงินไปกับการกดสั่งซื้อของออนไลน์กันเป็นว่าเล่น นั่งทำงานอยู่สักพักก็ต้องหยิบโทรศัพท์มากดเข้าแอปฯ ช็อปปิ้งออนไลน์แล้ว หรือโฆษณามาคั่นระหว่างตอนเล่นโซเชียลมีเดียก็ขอกดเข้าไปดูสักหน่อย รู้ตัวอีกทีตัดบัตรซื้อของไปเรียบร้อย ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสั่งซื้อของออนไลน์ทำให้เรามีแพชชั่นในการใช้ชีวิตเพื่อรอของมาส่งที่บ้าน แถมยังช่วยเติมเต็มความสุขในช่วงเวลาอันแสนน่าเบื่อหน่ายให้กับเราไม่น้อย สุดท้ายพอเครียดทีไร เลยต้องใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการ ซื้อ ซื้อ และก็ซื้อทุกที

💵 ทำไมแค่กดสั่งซื้อของออนไลน์ก็ฮีลใจได้แล้ว ?

เรามักจะได้ยินว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่พอเราใช้จ่ายเงินไปกับของที่อยากได้ก็กลับสร้างความสุขให้กับเราเป็นหลายเท่า ยิ่งช่วงที่ออกจากบ้านไม่ได้แบบนี้ด้วยแล้ว เราก็ยิ่งใช้จ่ายเงินไปกับการสั่งซื้อของออนไลน์ไม่หยุดไม่หย่อน เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรที่ต้องการได้ การสั่งซื้อของออนไลน์จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่มาทดแทนความสุขที่หายไปให้กับชีวิตของเรา เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนเดิม

Scott Bea นักจิตวิทยาคลินิกจาก Cleveland Clinic ชี้ให้เห็นถึงหลักการของการ ‘ช็อปปิ้งบำบัด’ ว่า เมื่อเรารู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ การได้รับสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงจะช่วยให้รู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จส่วนตัวในเชิงบวก (Positive Personal Achievement) ด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจึงเลือกใช้การสั่งซื้อของออนไลน์มากระตุ้นความรู้สึกในเชิงบวก เช่น ความสุข ความตื่นเต้น และเพิ่มมิติในการใช้ชีวิตให้มีสีสันมากยิ่งขึ้นในช่วงสถานการณ์แบบนี้

😣 แต่พอซื้อไปซื้อมากลายเป็นว่าเครียดกว่าเดิมซะงั้น

ในขณะที่การสั่งซื้อของออนไลน์ช่วยให้คลายเครียดหรือรู้สึกดีได้ก็จริง แต่มันก็ช่วยได้แค่ชั่วขณะเท่านั้น เพราะการได้ซื้อของที่ต้องการไม่ใช่รูปแบบของการบำบัดที่แท้จริง ดีไม่ดีเราอาจจะเครียดมากกว่าเดิมเนื่องจากใช้จ่ายเงินไปกับการสั่งซื้อของออนไลน์มากเกินไปจนเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ยิ่งต้องคิดหน้าคิดหลังเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินเป็นอย่างมาก การสั่งซื้อของออนไลน์จึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของความเครียดได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจเพื่อช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้

📝 ถ้าการช็อปปิ้งกลายเป็นปัญหา ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเขียนกัน!

หากการสั่งซื้อของออนไลน์กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาและความเครียดให้กับเรามากกว่าเดิม จะดีกว่าไหมถ้าเราลองเปลี่ยนเป้าหมายในการสร้างความสุขด้วยกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การเขียนระบายความในใจเองก็เป็นวิธีฮีลใจที่ดีไม่แพ้กับการสั่งซื้อออนไลน์เหมือนกัน

และการเขียนแทนการช็อปปิ้งเองก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยฮีลใจของเราได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากการเขียนช่วยให้เข้าใจถึงอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้มากขึ้น ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองกำลังเครียดก็แค่เขียนลงไปบนกระดาษแทนการกดสั่งซื้อของออนไลน์ เพียงแค่เราเขียนเท่าที่ใจเราต้องการและเขียนให้เราเข้าใจตัวเองมากที่สุด ก็ช่วยให้เห็นภาพของปัญหาที่รบกวนใจได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเงินจนต้องมานั่งเครียดกับรายจ่ายที่สูญเสียไปอีกด้วย หรือแม้แต่การเขียนรายการของที่อยากได้ลงไปบนกระดาษ ก็ช่วยให้จัดลำดับความสำคัญได้ว่าควรซื้อหรือไม่ซื้ออะไรได้บ้าง

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วกระซิบบอกมาซะดีๆ 9.9 นี้หมดไปกันเท่าไหร่? 😂

หากใครที่กำลังเครียดหรือต้องการตัวช่วยในการจัดการกับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการใช้จ่ายเงิน หรือความกังวลในเรื่องการจัดการเงินก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจของอูก้าช่วยคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม เพียงแค่ติดต่อและเข้ามาพูดคุยกับเรา จิตแพทย์และนักจิตวิทยาของเราพร้อมที่จะช่วยดูแลใจของคุณเสมอ 😊💙

ติดตามสารพัดวิธีดูแลสุขภาพใจ รวมถึงข่าวสารและโปรโมชั่นดี ๆ อีกมากมายได้ที่ 👉🏻 https://lin.ee/6bnyEvy

________________________________⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/fpD6⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา

อ้างอิงข้อมูลจาก:

Cleveland Clinic: https://cle.clinic/3kBjF8K

better help: https://bit.ly/3BkhJZ4