ในช่วงที่หลายคนรู้สึกไม่มั่นคงกับชีวิต ไหนจะสถานการณ์ #โควิด19 ที่เข้ามาสร้างความไม่แน่นอนให้กับอนาคตแบบนี้ ทำให้ผู้คนเป็นกังวลกันมากขึ้นว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเราบ้าง บางคนถึงขั้นเลือกที่จะจัดการกับความกังวลของตัวเองด้วยการหันไปพึ่งสายมูเตลู หรือตัดสินใจไปดูดวงกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเรื่องทางจิตวิญญาณอย่างบุญ-บาป นรก-สวรรค์ หรือไสยศาสตร์ ไม่ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่แล้วก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงนี้ ‘การดูดวง’ หรือ ‘#มูเตลู’ กำลังเป็นกระแสในสังคมเป็นอย่างมาก และกลายเป็นว่าทำให้ผู้คนหันไปพึ่งการดูดวงในการจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตกันมากขึ้น 🥺

🔮 ทำไมคนเราถึงชอบการดูดวง?

ความแม่นของการดูดวงเป็นตัวตัดสินใจว่าเราพอใจกับคำทำนายหรือไม่ คนที่ชอบดูดวงหลายคนคงมีหมอดูหรือเพจดูดวงในใจที่วัดจากความแม่นยำของหมอดู โดยเหตุการณ์ที่ทำนายดวงได้อย่างแม่นยำสามารถอธิบายได้ตามหลักจิตวิทยาที่เรียกว่า The Barnum-Forer Effect ได้อธิบายไว้ว่า คำทำนายส่วนใหญ่เป็นเรื่องทั่วไปที่สามารถใช้ได้กับทุก ๆ คน เช่น การทำนายว่าคุณต้องประหยัดในช่วงโควิด-19 หรือ คุณมีแนวโน้มที่จะได้แฟนหน้าตาดี คำทำนายแบบนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอเหมือนกัน นอกจากนี้การดูดวงโดยถามอายุ วันเกิด จักรราศี หรือการเลือกไพ่ 4 ใบก่อนเปิดดูดวง ทำให้เรารู้สึกว่าคำทำนายเกิดมาเพื่อเราจริง ๆ เพราะดูมีลักษณะเฉพาะตัวตรงกับเรามาก ทำให้เราเชื่อคำทำนายนี้ไปอย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ เลย

นอกจากนี้ คนเราเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ตนเองอยากเชื่อจนเกิดเป็นอคติยืนยันความคิดของตนเอง (Confirmation Bias) คือ การที่เราเชื่อแต่ข้อมูลที่ต้องการจะเชื่อโดยไม่พิจารณาถึงข้อมูลอื่น ๆ ความอคติในการคิดแบบนี้ทำให้เราเชื่อมโยงทุกเหตุการณ์เข้ากับการดูดวง เช่น ดูดวงรายวันแล้วพบว่าคนคุยเก่าจะกลับมาหาในช่วงนี้ พอคนคุยเก่าทักมาหาเราจริง ๆ เราก็จะเชื่อมโยงกับคำทำนายที่อ่านมาและรู้สึกว่าเป็นคำทำนายที่ตรงมาก ๆ ทั้งที่คนคุยเก่าอาจจะมีเหตุผลอื่นที่ทักมาหาเราก็ได้ เมื่อเหตุการณ์เป็นจริงตามคำนาย เราก็จะสนใจและจดจำได้เฉพาะเหตุการณ์เหล่านี้ ในขณะที่คำทำนายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เราก็จะไม่ได้ให้ความสำคัญหรือสนใจมัน ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามคำทำนายอย่างที่คาดหวังไว้ มันจะยิ่งทำให้เราอยากดูดวงมากขึ้น

🔮 อยากรู้อนาคตล่วงหน้า ‘หมอดู’ ช่วยคุณได้ ?

ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้คนต้องคอยหวาดระแวงทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่าง #น้ำท่วม แบบนี้ ทำให้เรารู้สึกไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้ และเกิดความกังวลกับอนาคต ไม่รู้ว่าหากก้าวเดินต่อไปแล้วจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง การดูดวงจึงเป็นเหมือนแสงไฟที่ช่วยให้เห็นทางเดินข้างหน้าและเป้าหมายในอนาคต ผู้คนที่ได้ดูดวงได้รับความสบายใจกับการล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อีกทั้งยังช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่ยังลังเลกับทางเลือกที่สำคัญของตัวเอง หรือรู้สึกกังวลว่าควรเลือกทางไหนดีได้ด้วย

และการดูดวงสำหรับบางคนก็ยังช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเองได้เป็นอย่างมาก เช่น การใส่เสื้อตามสีมงคล เช่น สีน้ำเงินในวันจันทร์ ก็ช่วยลดความเครียดในการทำงานเพราะเชื่อว่าสีน้ำเงินจะช่วยให้เราโชคดีไปทั้งวันได้ หรือว่าจะเป็นเครื่องรางหรือสิ่งของมงคลติดกระเป๋าไว้ระหว่างไปสัมภาษณ์งาน ทำให้เรารู้สึกมั่นใจว่า การสัมภาษณ์ครั้งนี้ต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

💙 อยากจัดการกับความกังวลอนาตคที่คอยรบกวนจิตใจให้ไปหา ‘จิตแพทย์และนักจิตวิทยา’

แม้ว่าการดูดวงจะคลายกังวลให้เราได้บ้าง แต่หลายครั้งการดูดวงอาจทำให้เรากังวลกว่าเดิมหากพบว่าอนาคตเราจะเจอเรื่องร้าย หรือเจอเรื่องที่ไม่เหมือนกับที่หมอดูบอกไว้ ที่สำคัญคือความกังวลและปัญหาที่เราเผชิญไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการรู้อนาคตเพียงอย่างเดียว เมื่อนั้นจิตแพทย์และนักจิตวิทยาก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คลายกังวลในเรื่องของอนาคตและผ่านพ้นปัญหาไปได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจและเข้าใจถึงปัญหาที่คอยรบกวนจิตใจของเราอยู่ตลอดเวลา โดยอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและให้อยู่กับปัจจุบันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และช่วยให้เราตัดสินใจเรื่องอนาคตก็ควรตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่าการใช้โชคชะตามากำหนดอนาคตของเรา การไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจึงเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เราทำความเข้าใจความคิดและเหตุผลต่าง ๆ ในการเลือกตัดสินใจมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยประเมินและจัดการกับความเครียดหรือความกังวลที่ส่งผลต่อสุขภาพใจด้วย

💊 จิตแพทย์และนักจิตวิทยาช่วยเราให้หายกังวลอนาคตได้อย่างไร?

อย่างที่รู้กันดีว่า จิตแพทย์และนักจิตวิทยามีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับปัญหาสุขภาพใจ เช่น ความเครียด ความกังวลอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาว่าจะเลือกใช้ทฤษฎีไหนในการจัดการความรู้สึกเชิงลบเหล่านี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม หรือ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ซึ่งเป็นการบำบัดที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันมาช่วยจัดการกับความเครียดหรือความกังวลของเรา โดยการบำบัดนี้จะช่วยจัดการกับความคิดที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเครียดหรือกังวลผ่านการพูดคุยหรือการใช้ยา ก่อนที่จะช่วยปรับความคิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับเราและจัดการกับความเครียดความกังวลต่าง ๆ ได้

ไม่ว่าจะเป็นการดูดวงหรือการไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจ หากทั้งคู่สามารถช่วยให้เราหายกังวลอนาคต มันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับสุขภาพใจของเราแล้ว แต่เมื่อไรก็ตามที่ความกังวลอนาคตกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากเกินไป เช่น นอนไม่หลับ คิดวนเรื่องเดิมจนคิดเรื่องอื่นไม่ได้ พฤติกรรมการทานอาหารเปลี่ยนไป คนที่เราควรไปหาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อรับการเยียวยาความเครียดอย่างถูกต้องและทันเวลา

หากคุณกำลังกังวลอนาคตไม่รู้ว่าจะจัดการได้อย่างไร อย่าลืมให้อูก้าเป็นตัวช่วยของคุณนะ เรามีทีมนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ยินดีรับฟังเรื่องราวของคุณตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ จะอยู่บ้าน ที่ทำงาน กลางสวนสาธารณะหรือที่ไหนก็มาหาเราได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้อูก้ายังมีสารพัดวิธีดูแลใจและสิทธิพิเศษอีกมากมายที่รอให้ทุกคนมาเลือกสรร แอดเลย Line Official 👉🏻 https://lin.ee/6bnyEvy

เรื่องของใจให้เรารับฟังนะ 💙💚

________________________________⠀⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/Ar2K

อ้างอิงข้อมูลจาก:

Psychology Today: https://bit.ly/3CPAsfR