Stop Stigma เพราะการตีตราทำให้เรา ไม่กล้ารักตัวเอง
‘รักตัวเอง’ คำที่พูดออกมาแสนง่าย แต่พอถึงสถานการณ์ที่ต้องอาศัยการรักตัวเองจริง ๆ กลับไม่เป็นดังใจนึก และสำหรับบางคนก็ต้องหงุดหงิดตัวเองมากกว่าเดิมเมื่อได้รับคำพูดทำนองว่า “รักตัวเองหน่อยสิ” เพราะรู้อยู่แล้วว่าควรรักตัวเอง แต่ทำยังไงก็ไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองได้รับความรักซะที
เพราะการตีตราทำให้เราไม่กล้ารักตัวเอง
ทุกครั้งที่คิดว่าจะรักตัวเองสักที ก็มีทั้งคำถามและความสงสัยในตัวเองปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิด เรื่องราวเลวร้ายและความผิดพลาดคอยกดทับความกล้าที่จะรักและใจดีกับตัวเองไว้ตลอดเวลา จนหาไม่เจอว่าตัวเรา “มีคุณค่าอะไรให้รัก” หารู้ไม่ว่าเรากำลังทนทุกข์อยู่กับภาพลวงของ ‘ตราบาป’ (stigma) ที่สังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงตัวเราเองเป็นคน ‘ตีตรา’ (stigmatization) ขึ้น
เพราะสังคมไทยมักมีค่านิยมยกย่องและให้คุณค่าเฉพาะคนที่มีความสามารถโดดเด่น หรือมีความสามารถในสาขาที่สังคมต้องการ หลายคนที่มีความสามารถแบบเป็ดที่ทุกอย่างอยู่ระดับกลาง หรือคนที่ไม่ได้มีความชอบความสนใจในสายอาชีพที่สังคมให้คุณค่าก็มักจะถูกตีตราว่า ‘นอกคอก’ ‘ไม่เก่ง’ ‘ไม่มีคุณค่า’
นอกจากนี้ยังมีค่านิยมอีกมากมาย เช่น มาตรฐานความงาม (beauty standard) เพศสภาพและเพศวิถี (gender and sexuality) ชาติพันธุ์ ศาสนา และอีกมากมาย เราค่อย ๆ รับเข้ามากดทับความเชื่อมั่นในตัวเอง (self-esteem) ของเราไว้ เรียนรู้ว่า “ความรักมีเงื่อนไข” และ ‘เราไม่มีค่าให้ได้รับความรัก’ ก็กลายเป็นโปรแกรมที่ฝังลึกลงไปในส่วนที่เรามองไม่เห็น
สวนทางกับ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่น้อยจนแทบจะหาไม่ได้สำหรับบางคน หรือบางคนที่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับบางเรื่องแต่อาจจะไม่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการระบายความรู้สึกไร้คุณค่านี้ออกไปเลยก็ได้ เพราะกลัวจะถูกมองว่าผิดแผกแปลกแยก ผิดปกติ หรือแตกต่าง กลัวว่าได้รับคำพูดหรือการกระทำใจร้ายกลับมาแทน
ความรู้สึกไร้ค่า “ไม่ใช่เรื่องผิด”
การรับมือกับภาพลวงตาของตราบาปอาจไม่ใช่เรื่องที่ทำแล้วเห็นผลทันทีแต่เป็นการออกกำลังกายทางความคิดในแต่ละวันเพื่อให้จิตใจมีสุขภาพดีในระยะยาว การยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์ถูก-ผิด ลงไปก็เป็นก้าวแรกของการออกกำลังกายที่ดี แม้วันนี้เราอาจจะยังไม่สามารถบอกว่ารักตัวเองได้อย่างเต็มปาก แต่จากก้าวแรกนี้จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ การหาความรู้อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นทางออกที่จะช่วยให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น รู้เท่าทันภาพลวงตาของตราบาป และหยุดส่งต่อค่านิยมที่จะก่อให้เกิดตราบาปแก่ผู้อื่นได้อีกด้วย มาเรียนรู้เรื่องราวของการตีตรา ตามหาวิธีการรักตัวเองในแบบของเรา ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นผ่านการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับตราบาปของทุกคน พร้อมทั้งลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วม Workshop ฮีลใจผ่านกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ 🙂 ที่เฟสบุ๊คอูก้าและแฮชแท็ก #TheBetterPlace #เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าอาย #NoShame
หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังทุกข์ใจแต่หาทางออกไม่ได้ ให้อูก้าเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะคอยรับฟังทุกเรื่องราวโดยไม่ตัดสินนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแบบไหนก็สามารถมาหาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตลอด 24 ชม. เลย ที่สำคัญมั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะถูกเก็บเป็นความลับ เมื่อไหร่เวลาไหน เรื่องของใจให้เรารับฟังนะ
รับพลังบวกในแต่ละวันและนัดคุยกับผู้เชี่ยวชาญผ่านแอปพลิเคชันอูก้า
ดาวน์โหลดเลย 👉🏻 https://ooca.page.link/V3p4
หรือติดตามสิทธิพิเศษมากมายที่เราคัดมาให้ทุกคนเลือกสรร
แอดเลย Line Official 💚 : https://lin.ee/6bnyEvy
#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง
Recent Comments