รู้หรือไม่ ประเทศไทยมี 6 จังหวัดที่ไม่มีนักจิตวิทยาเลยสักคน

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่อาจจะยังตอบง่าย ๆ ไม่ได้ในทันที แต่ข้อมูลเหล่านี้ และข่าวเศร้ามากมายที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมานี้ คงจะเป็นธงแดงที่เตือนให้ “เรา” ควรจะหันมา “เตรียมรับมือ” กับวิกฤติสุขภาพจิตที่กำลังฟักตัวในประชากรทุกช่วงอายุ …. และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวิกฤตินี้ไม่สามารถแก้ได้ในชั่วพริบตา 

.

ปี 2565 รายงานจากกรมสุขภาพจิตระบุว่าประเทศไทยมีจิตแพทย์รวม 845 คน ซึ่งถือว่าเรามีจิตแพทย์ 1.28 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน [1] ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มีอัตราส่วนจิตแพทย์ต่อประชากรมากที่สุดในโลก จะพบว่าสวิตเซอร์แลนด์มีจิตแพทย์อยู่ที่ที่ 47.17 คนต่อแสนประชากร

.

,

ในขณะที่ถ้าเทียบกับประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงเป็นลำดับต้น ๆ ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ญี่ปุ่นมีอัตราส่วนจิตแพทย์ต่อแสนประชากรอยู่ที่ 12.55 และเทียบกับเกาหลีใต้มีอัตราส่วนจิตแพทย์ต่อแสนประชากรอยู่ที่ 7.91 ซึ่งถือว่ามากกว่าไทยหลายเท่า และในส่วนของนักจิตวิทยา ประเทศไทยมีมีนักจิตวิทยาเพียง 1,037 คนต่อคนทั้งประเทศ คิดเป็น 1.57 คนต่อแสนประชากรด้วยกัน

.

.

หากไม่นับสาเหตุเรื่องระยะเวลาในการเรียนจบด้านจิตแพทย์ (ที่สามารถจ่ายยาได้) ต้องใช้เวลานานกว่าจะจบหลักสูตร แล้วนั้น (9-10 ปี) แม้เราจะโชคดีที่ประเทศไทยยังมีวิชาชีพร่วมทั้ง นักจิตวิทยาคลินิก พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยาให้คำปรึกษา แต่อย่างไรก็ตามการกระจายบุคลากรด้านสุขภาพจิตไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ยังต้องคำนวณจากหลายปัจจัยด้วยกัน 

.

.

ความท้าทายในการกระจายการให้บริการ สะท้อนผ่านข้อมูลที่ว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา ยโสธร กลายเป็นจังหวัดที่ไม่มีจิตแพทย์เลยสักคน (เพิ่งมีเพิ่ม 2 คนในปีที่ผ่านมา) ส่วนนักจิตวิทยา ยังมีอีก 6 จังหวัดที่ไม่มีนักจิตวิทยาเลยสักคน (ได้แก่ตราด แพร่ สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอ่างทอง)

.

.

ยิ่งเมื่อเจอกับวิกฤติโรคระบาด เศรษฐกิจ อัตราความเสี่ยงฆ่าตัวตาย และความต้องการที่จะเข้ารับการรักษาก็มีสูงขึ้นทั่วโลก ในขณะที่การผลิตบุคลากรในด้านนี้ต้องใช้เวลาเตรียมล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 5 ปี – คำถามคือ แล้วโลกปรับตัวเพื่อหาทางบรรเทาทุกข์นี้อย่างไร ?

.

.

เนื่องใน #วันสุขภาพจิตโลก #WorldMentalHealthDay2022 อูก้าจึงได้รวบรวมแนวคิดที่น่าสนใจจากทั่วโลก เช่นว่า แพทย์ในกรุบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมจ่ายยาด้วยการให้ผู้ใช้บริการไปเข้าพิพิธภัณฑ์ในเมือง [2] / นักวิจัยทั่วโลกได้สร้างความร่วมมือกันสร้างฐานข้อมูลพันธุกรรมที่ครอบคลุมความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากขึ้น [3] / การใช้ปัญญาประดิษฐ์คัดกรองเนื้อหาหรือคำศัพท์ที่นำไปสู่การกระตุ้นให้คนทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย [4] / การใช้แพทย์ทางไกล (Telehealth) มาช่วยให้บริการผู้ป่วยนอกในช่วงโรคระบาดโควิด [5] และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นการเฝ้าระวังหรือป้องกันก่อนจะสาย เช่น การปรับวัฒนธรรมองค์กรให้ยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อผู้ที่กำลังรักษาอาการทางจิตเวชให้มากขึ้น

.

.

นอกจากนี้เทรนด์การใช้แอพลิเคชันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกัน / ประเมิน / เรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือรับบริการสุขภาพจิต ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก โดยในปัจจุบันนี้ ใน App Store และ Play Store มีแอพลิเคชันด้านสุขภาพจิตมากกว่า 10,000+ แอพลิเคชันด้วยกัน ส่งผลให้องค์กรอย่าง Onemind, Health Navigator และ World Economic Forums เริ่มที่จะพัฒนาการคัดกรองมาตรฐานและให้ “การรับรอง” ในแง่จริยธรรมในการให้บริการ, ผ่านการทดสอบทางคลินิก, ความปลอดภัย และความมีประสิทธิภาพ [6]

.

.

อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่านวัตกรรมต่อไปนี้ได้เกิดขึ้น (มาสักระยะแล้ว) แต่จะ “ใช้ได้จริง” เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการให้บริการได้อย่างไร ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ทั้งสังคมต้องบูรณาการร่วมกันนอกเหนือไปจากส่วนของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ เช่น

.

–  เราจะสั่งยาให้คนไข้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้อย่างไรหากจังหวัดนั้น ๆ ไม่มีพื้นที่สาธารณะ หรือไม่มีพิพิธภัณฑ์ที่สร้างแรงบันดาลใจ? 

.

– ปัญญาประดิษฐ์ที่อ่านข้อความภาษาไทยถูกส่งเสริมและถูกนำไปใช้ประโยชน์มากแค่ไหน? 

.

– ผู้มีรายได้น้อยจะเข้าถึงบริการสุขภาพจิตผ่านสวัสดิการต่าง ๆ ได้อย่างไร ? เราจะป้องกันให้ประชากรเกิดความเสี่ยงทางสุขภาพจิตน้อยลงตั้งแต่ตอนอายุน้อยได้ไหม เพราะในปีที่ผ่านมานี้ ข้อมูลจากยูนิเซฟระบุว่า เด็กไทยอายุ 5-9 ปี ประมาณ 1 ใน 14 คน และ วัยรุ่นไทยอายุ 10-19 ปี ประมาณ 1 ใน 7 คน มีความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์ [7] ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

.

– ฯลฯ

.

.

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่อาจจะยังตอบง่าย ๆ ไม่ได้ในทันที แต่ข้อมูลเหล่านี้ และข่าวเศร้ามากมายที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมานี้ คงจะเป็นธงแดงที่เตือนให้ “เรา” ควรจะหันมา “เตรียมรับมือ” กับวิกฤติสุขภาพจิตที่กำลังฟักตัวในประชากรทุกช่วงอายุ …. และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวิกฤตินี้ไม่สามารถแก้ได้ในชั่วพริบตา 

.

.

การฝ่าปัญหานี้ จะต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และอูก้าเชื่อว่า เราทุกคนสามารถเป็นส่วนร่วมในการให้ความรู้ที่ถูกต้อง การสร้างความตระหนัก และการส่งเสียงให้เกิดการจัดสวัสดิการด้านสุขภาพจิตให้กับผู้ที่ต้องการ

.

.

สุขสันต์วัน #วันสุขภาพจิตโลก #WorldMentalHealthDay2022 โดยอูก้าขอเชิญชวนมาคุยกันกับ ‘อิ๊ก’ กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ ผู้ก่อตั้ง Ooca แพลตฟอร์มให้บริการด้านสุขภาพจิต ในหัวข้อ “ถอดรหัสอนาคตสุขภาพจิตคนไทย” โดยเล่าจากประสบการณ์บริหารแพลตฟอร์มอูก้ามาตั้งแต่ปี 2017 จนมาถึงปัจจุบันที่อูก้าได้ให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่หน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชน ดูแลผู้ใช้บริการหลายหมื่นคน รวมถึงได้ขยายผลไปยังการให้บริการทางสังคมผ่านโครงการ Wall of Sharing ที่ช่วยดูแลสุขภาพใจให้กับนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปในยามวิกฤติ ผ่านทาง Twitter Space ในวันที่ 10 ตุลาคม 2022 เวลา 20.00 เป็นต้นไป

.

-ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อจะได้หาแนวทางในการรักษาเยียวยา – แอดเลย Line Official : https://lin.ee/6bnyEvy .

– สนใจปรึกษานักจิตวิทยา ดาวน์โหลดได้เลยที่ : https://ooca.page.link/ZHMD

.

.

#OOCAitsOK #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #นักจิตวิทยา #จิตแพทย์ #สุขภาพใจ #mentalhealth #จิตแพทย์ออนไลน์ #นักจิตวิทยาออนไลน์

——- 

[1] https://data.go.th/dataset/specialist และข้อมูลรวบรวมโดย Rocketmedialab

[2] https://www.weforum.org/videos/doctors-in-brussels-prescribe-free-museum-visits-to-boost-mental-health

[3] https://www.weforum.org/agenda/2022/09/diverse-genetic-data-tools-factors-causing-mental-illness/

[4] https://www.scientificamerican.com/article/mining-social-media-reveals-mental-health-trends-and-helps-prevent-self-harm/

[5] https://news.ohsu.edu/2022/04/04/pandemic-drives-use-of-telehealth-for-mental-health-care

[6] https://www.scientificamerican.com/article/how-consumers-and-health-care-providers-can-judge-the-quality-of-digital-mental-health-tools/

[7] https://www.unicef.org/thailand/th/press-releases/ยูนิเซฟและกรมสุขภาพจิตชี้สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นไทยน่าเป็นห่วง

Read More

เซโรโทนินต่ำเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้า จริงหรือ…?

เพื่อน ๆ เคยได้ยินประโยคที่ว่า “เป็นซึมเศร้าเพราะเซโรโทนินต่ำ” กันบ้างไหม บทความจิตวิทยาหลายชิ้น งานวิจัยหลายฉบับ รวมทั้งรูปแบบการศึกษาที่อ้างอิงกับงานวิจัยในทฤษฎีซึมเศร้าดั้งเดิม มักจะพยายามหาวิธีเพื่อที่จะรักษาสมดุลของเจ้าฮอร์โมนนี้ และหาวิธีลดอัตราการเกิดของโรคซึมเศร้า แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว เซโรโทนินต่ำไม่ได้ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า วันนี้อูก้าจะมาพาทุกคนมาไขคำตอบกันว่า เซโรโทนินต่ำเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้า จริงหรือ…?

.

โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะได้ยินกันว่า อาการซึมเศร้าสัมพันธ์กับความผิดปกติของสารเคมีในสมองโดยเฉพาะสารที่ชื่อ “เซโรโทนิน” หรือสารเคมีแห่งอารมณ์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนและสารสื่อประสาทที่เชื่อมโยงกับร่างกายและการควบคุมอารมณ์ โดยทฤษฎีดังกล่าวได้เป็นที่แพร่หลายในวงการแพทย์และจิตวิทยามาจนถึงปัจจุบัน  อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีดังกล่าวเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมีผู้รวบรวมข้อโต้แย้งเหล่านั้นมาเป็นงานวิจัย ที่อูก้าจะพาพวกเราจะไปค้นหาคำตอบกันในวันนี้

.

งานวิจัย umbrella review ของ Joanna Moncrieff และคณะ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Psychology เมื่อปี 2022  ได้สำรวจงานวิจัยในช่วงเวลา 10 ปีที่มาผ่านมาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซโรโทนิน ยาต้านซึมเศร้า และโรคซึมเศร้า ทางทีมวิจัยศึกษาประเด็นดังกล่าวโดยพิจารณาจาก 

1. ระดับสารเซโรโทนินและเซโรโทนินเมตาโบไลต์ 5-HIAA ในโรคซึมเศร้า

2. การเปลี่ยนแปลงของการจับตัวบนผิวเซลล์ของเซโรโทนินในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 

3. ระดับของยีน SERT หรือตัวขนส่งเซโรโทนินในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 

4. ระดับของตัวขนส่งเซโรโทนิน ซึ่งจะทำให้การรับส่งเซโรโทนินที่ปลายประสาทลดลง

5. งานวิจัยเกี่ยวกับภาวะการขาดทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยรักษาสมดุลทางอารมณ์และการกระตุ้นการเกิดโรคซึมเศร้า 

6. ความสัมพันธ์ของยีน SERT กับความเครียดในโรคซึมเศร้า 

.

เมื่อพิจารณาจากเกณฑ์ต่าง ๆ แล้ว งานวิจัยพบว่า งานวิจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเซโรโทนินและเมตาบอไลต์ชี้ให้เห็นว่า การทำงานที่ลดลงของสารเซโรโทนินและโรคซึมเศร้าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ งานวิจัยเกี่ยวกับภาวะการขาดทริปโตเฟน และการกระตุ้นการเกิดโรคซึมเศร้ายังแสดงหลักฐานที่น้อยมากเกี่ยวกับการทำงานที่ลดลงของเซโรโทนิน ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากผลในภาพรวมของกลุ่มงานวิจัยดังกล่าว เราจะเห็นได้ว่า ความเข้มข้นของเซโรโทนินกับโรคซึมเศร้าไม่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งตรงกันข้ามทฤษฎีดั้งเดิมของโรคซึมเศร้า

.

นอกจากนี้ ตัวงานวิจัยยังตั้งคำถามกับความเชื่อที่ว่า โรคซึมเศร้าเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ซึ่งเป็นองค์ความรู้จากการใช้ยาต้านเศร้า โดยที่งานวิจัยเผยข้อโต้แย้งที่น่าสนใจว่า การใช้ยาต้านเศร้า (antidepresssants) ในระยะยาวกลับส่งผลให้การหลั่งสารเซโรโทนินลดต่ำลง ดังนั้น หากจะกล่าวว่าการลดลงของสารเซโรโทนินเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว

.

อูก้าเข้าใจว่า สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังต่อสู้อยู่กับโรคซึมเศร้าต้องใช้แรงกายแรงใจ เพื่อที่จะฝ่าฟันและข้ามผ่านมันไปได้ แม้จะต้องใช้เวลานานมากแค่ไหน อูก้าจะคอยอยู่เคียงข้างและเปลี่ยนให้ทุก ๆ วันเป็นวันที่สดใสสำหรับทุกคนนะ 

.

ติดตามสิทธิพิเศษมากมายที่เราคัดมาให้ทุกคนเลือกสรร พร้อมไม่พลาดเนื้อหาสาระสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องจิตวิทยา – แอดเลย Line Official : https://lin.ee/6bnyEvy

.⠀

สนใจปรึกษานักจิตวิทยาแบบนั่งคุยจากที่บ้าน ดาวน์โหลดแอพอูก้าได้เลยที่ : https://ooca.page.link/ZHMD

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง

#mentalhealth #depression #ซึมเศร้า #เซโรโทนิน #scientificNEWS 

#OOCAissues #OOCAask #oocadiscussion #OOCAissues

#นักจิตวิทยา #จิตแพทย์ #สุขภาพใจ #mentalhealth #onlinementalhealth #จิตแพทย์ออนไลน์ #นักจิตวิทยาออนไลน์

Resource:

Moncrieff, J., Cooper, R.E., Stockmann, T. et al. The serotonin theory of depression: a systematic umbrella review of the evidence. Mol Psychiatry (2022). https://doi.org/10.1038/s41380-022-01661-0

Read More

Hello , Anxiety ขอบคุณที่อยู่กับฉันในวันที่โดดเดี่ยว

Hello, Anxiety

You’ve come to keep me company

Tonight, a lonely soul

I’ve tried to learn the art of letting go

สวัสดีความกังวลใจ

เธอเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนฉัน

คืนนี้ ที่ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว

ฉันได้เรียนรู้ความสวยงามของการปล่อยวาง

แต่ละคืนเรานั่งอยู่เพียงลำพังในโลกใบเล็กของตัวเอง บอกไม่ได้เลยว่าตอนนี้ทุกอย่างมันยากลำบากเพราะอะไร ทำไมเราถึงต้องร้องไห้ ทำไมเราถึงต้องแบกรับความเหนื่อยล้า เรากังวล เราเป็นทุกข์ เรามีคำถามในใจมากมายที่หาคำตอบไม่ได้

วันที่โลกที่มืดมน เราได้แต่ภาวนาให้ตัวเองพบเจอความสว่างอีกครั้ง 💫

ความกังวลพัดมาเกาะกินใจเรา บางสิ่งสามารถเข้าใจและยอมรับได้แต่บางอย่างกลับมองเห็นไม่ชัดเจน เกิดเป็นหมอกควันรบกวนความรู้สึก ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะหยิบมันขึ้นมาแก้ไข ใช้เวลาทำใจกว่าจะโยนมันทิ้งไป ไม่ต่างอะไรจากการสะสมขยะจนล้นถัง ไม่ได้ระบายไม่ได้ปล่อยวาง สุดท้ายก็กลายเป็นความกังวลที่เข้ามาทักทายไม่มีสิ้นสุด

What if the world won’t bend my way?
What will it take to be happy?

ไม่รู้ว่าตอนนี้เรายืนอยู่ที่จุดไหน แต่ปลายทางฉันอยากเป็นคนที่มีความสุข หลายครั้งเราถามตัวเองว่าทำไมคนรอบตัวถึงมีความสุขยกเว้นเรา “ทำไมชีวิตคนอื่นถึงดูง่าย มีแค่ชีวิตเราที่ยากเสมอ” เราหวังเพียงสักครั้ง โลกนี้จะเข้าข้างเราและทำให้เราเป็นคนที่มีความสุขที่สุด แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ อดีตยังคงเป็นความเจ็บปวดเสมอ อนาคตที่รอคอยก็ยังมาไม่ถึง สิ่งที่เราสัมผัสได้อาจเป็นเวลา “ปัจจุบัน” ที่เรานั่งอยู่ตรงนี้ เพื่อรับรู้การมีอยู่ของ “ตัวเอง”

เหมือนกับที่เราโหยหายความเป็นจริง อะไรก็ได้ที่เข้ามาทำให้เรารับรู้การมีอยู่ของตัวเอง

I’m craving something real, a kind of rush that I can feel
The night is rough you know, I’ve cried but I won’t dare to let it show

เราอาจเดินหลงทางไปบ้าง บอกตัวเองนะว่า “ไม่เป็นไร”
เราอาจเคว้งคว้างในค่ำคืนที่ไม่รู้จะผ่านไปอย่างไร กอดตัวเองไว้นะ เราจะ “ไม่เป็นไร”

พรุ่งนี้จะยังคงเป็นวันใหม่ พระอาทิตย์จะยังทักทายเราด้วยแสงสว่างเสมอ
เราไม่จำเป็นต้องกลัวเมื่อ “ความกังวล” เดินเข้ามา

เสียงในหัวที่บีบให้เราทรมานอาจเป็นเพราะความกังวลนั้นไม่มีคำตอบ
‘ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นจะเป็นอย่างไร’
‘ฉันที่เป็นแบบนี้ ยังเป็นที่ต้องการอยู่ไหม’
‘พรุ่งนี้ทุกอย่างอาจเลวร้ายกว่าที่คิด’

นี่คือสิ่งที่ความกังวลบอกเรา ตอกย้ำว่า ‘เราหยุดคิดไม่ได้เลย’ คนรอบตัวก็คอยบอกเสมอว่า ‘คิดมากเกินไป’
อย่าโกรธเกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย ไม่ผิดอะไรถ้าเราจะมี “ความกังวล” เป็น “เพื่อน”
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะอยู่กับความกังวล ลองเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความกังวลแบบที่ไม่มากไปไม่น้อยไป

แต่ละคนจัดการความกังวลได้ไม่เหมือนกัน รู้สึกกับมันในระดับที่ต่างกัน

ถ้าต้องอดทนกับทุกอย่าง เราเองคงจะ “เหนื่อย” มาก แต่การบอกให้เลิกกังวลคงเป็นไปได้ยาก ถ้าวันไหนความกังวลก่อตัวขึ้นในใจ อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิ่งที่มันกำลังรบกวนใจ อย่าเพิ่งเก็บกดมันไว้ ให้เราใช้เวลาอยู่กับความกังวลนั้นสักพัก จนเราเรียนรู้ว่าจะ “ปล่อยวาง” มันได้อย่างไร ปลายทางหลังผ่านพ้นความมืดนี้ไป อาจไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด

ไม่เป็นไร เราบอกลาความกังวลได้เสมอ
ฉันจะไม่เป็นไร
เธอจะไม่เป็นไร
เราจะไม่เป็นไร

เชื่อเถอะว่าเราผ่านมันไปได้ เราอยู่กับความกังวลได้ บางครั้งเราอาจต้องเดินออกมาจากบางสิ่งบางอย่าง เลิกคาดเดากับอะไรที่ยังมาไม่ถึง พาตัวเองกลับมาโอบกอดความรู้สึกในปัจจุบันอีกครั้ง 🙂

บอกตัวเองว่าเราเก่งพอที่จะผ่านทุกอย่างไปได้ในวันที่ความกังวลเข้ามาทักทาย
เราอาจเติบโตในอีกรูปแบบหนึ่งโดยมีความกังวลเป็นเพื่อนร่วมทางไปกับคุณ

ไม่ผิดเลยถ้าเราเดินออกจากโลกที่มืดมิดไม่ได้ ถ้าวันไหนความกังวลนั้นแผ่ขยายจนใจเรารับไม่ไหว อยากขอความช่วยเหลือจากใครสักคน อูก้าพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณได้พักหัวใจ เรามีจิตแพทย์และนักจิตวิทยามากมายในแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาออนไลน์ คอยรับฟังและดูแลใจคุณทุกที่ทุกเวลา ให้อูก้าเป็นอีกหนึ่งกำลังใจดี ๆ ที่จะเดินไปกับคุณนะ 💙

🌟 ฟังเพลง Hello, Anxiety ของ Phum Viphurit ได้ที่นี่ https://bit.ly/3zrBsow

#OOCAinsight #PhumViphurit #HelloAnxiety

________________________________
⠀⠀⠀⠀
ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/KFYm

Read More

แด่ผู้ที่โอบกอดความโศกเศร้า : Eight – IU feat. Sugar (BTS)

‘อยากนอนหลับไปตลอดกาล..’

เริ่มต้นจากประโยคแสนธรรมดา แต่จบลงที่ความโศกเศร้าเมื่อเราต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักให้กับ ‘ความเป็นนิรันดร์’ ที่เราเอื้อมไม่ถึง ความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันไปหมดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงว่าเขาไม่ได้อยู่ให้เราจับมือเคียงข้างอีกแล้ว.. เช่นเดียวกับ Eight (에잇) – #IU (아이유) ft. Sugar #BTS บทเพลงที่ถูกแต่งขึ้นแด่เพื่อนของเธอที่ตัดสินใจจากไปเพราะโรคซึมเศร้า และถูกขับร้องเพื่อเป็นเสียงแทนหัวใจของหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้ปลอบโยนคนที่เขารักอีกต่อไป

So are you happy now ?
Finally happy now ?

“เธอมีความสุขแล้วใช่ไหม ?
ในที่สุดเธอก็มีความสุขแล้วใช่ไหม ?
ส่วนฉันยังคงเหมือนเดิม
รู้สึกเหมือนสูญเสียทุกสิ่งที่อย่างไป”

อยากจะโกรธที่เธอเลือกหายไปในที่ที่กำลังใจจะส่งไปไม่ถึง อยากโกรธที่เธอไม่ให้โอกาสเราได้บอกเธอว่าเรารักเธอ และเธอสำคัญกับเรามากขนาดไหน แต่เพราะเข้าใจดีว่าโลกนี้ใจร้ายกับเธอมากเพียงใด จึงไม่สามารถโกรธเธอที่ตัดสินใจจากเราไปโดยไม่บอกลา แม้ไม่อาจยินดีกับเธอได้อย่างสุดหัวใจ แต่ก็หวังว่าเธอจะได้พบกับความสุขที่เธอตามหามาแสนนาน ส่วนเราที่ยังคงอยู่ตรงนี้ก็ยังคงทำได้แค่เพียงเป็นกำลังใจให้เหมือนที่ผ่านมา

“ไม่มีอะไรมาพรากเราจากกัน
เรามาพบกันในความฝันนั้น
และคงอยู่ไปตลอดกาล”

หลายครั้งเราก็ถามตัวเองว่าทำไม เป็นเพราะอะไรความรักและความห่วงใยที่เรามีให้จึงส่งไปไม่ถึง..? แต่เพราะคำถามเหล่านั้นมันไม่มีคำตอบ จึงทำได้เพียงยอมรับความจริงว่าในวันนี้ไม่มีเธอให้ได้สร้างความทรงจำและเรื่องราวดี ๆ ร่วมกันอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นจะขอเก็บเธอไว้ในความทรงจำ ต่อให้จะต้องเจ็บปวดกับการสูญเสียอีกกี่ครั้ง ในแต่ม่านแห่งความฝันนั้นเธอจะยังมีชีวิตอยู่กับเราเสมอ

ตอนนี้เราอาจจะจมอยู่กับความเศร้า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ช่วงเวลาที่แสนปวดร้าวนี้จะผ่านพ้น บางทีอาจเป็นเดือน บางทีอาจเป็นปี หรือบางทีความเศร้านี้อาจจะอยู่กับเราตลอดไป แต่เรามั่นใจว่าจะต้องมีความสุขได้อย่างแน่นอน ต่อให้ต้องถือความเศร้าเอาไว้เราก็จะมีความสุข เราจะมีลมหายใจต่อไป รวบรวมความสุขใส่ไว้ในขวดแก้วแห่งความทรงจำ รอให้สักวันหนึ่งที่เราจะได้พบกัน ในวันนั้นเราเอาความสุขมาแชร์กันนะ 🙂

เพื่อน ๆ ที่กำลังโอบกอดความเศร้า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรมาปล่อยมันไปกับเสียงเพลง Eight (에잇) – IU (아이유) ft. Sugar ได้ที่ : https://youtu.be/TgOu00Mf3kI 💜

ความตายอาจจะเป็นปลายทางของคนคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของถนนแห่งความโศกเศร้าของใครอีกคน หลายคนต้องสูญเสียคนที่ตนรักให้กับโรคซึมเศร้า แล้วเอาแต่โทษตนเองที่ไม่สามารถรั้งพวกเขาไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของใครเลย อยากให้รู้ไว้ว่า “เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว”

เช่นเดียวกับอีกหลายคนที่กำลังรู้สึกว่าทุกอย่างมันยากเกินจะรับไหว เชื่อเถอะว่ามีคนอีกมากมายที่อยากมีเราในชีวิต เพื่อนคนไหนกำลังเจ็บปวดหัวใจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็มาเล่าให้เราฟังใน “กลุ่มเล่าเหอะอยากฟัง by ooca” คอมมูนิตี้ที่พร้อมจะจับมือประคับประคองทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน จะมารับกำลังใจ หรือจะมาให้กำลังใจกันและกันก็ได้เสมอ พวกเราทุกคนในกลุ่มนี้ยินดีจะรับฟังทุกเรื่องราวโดยไม่ตัดสิน

หรือหากอยากคุยกับใครสักคน อยากร้องไห้ ระบายออกไปโดยไม่ต้องกลัวว่าความลับในใจจะหลุดออกไปให้คนอื่นล่วงรู้ มาคุยกับผู้เชี่ยวชาญของอูก้าได้เสมอ เราพร้อมจะอยู่เคียงข้างและรับฟังทุกเรื่องราวหรือปัญหาที่กำลังรุมเร้า ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เรื่องของใจให้เรารับฟังนะ 🙂

#OOCAinsight

________________________________⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/hDpw
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ > https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > http://bit.ly/msgfbooca.⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More

ไปดูผีเสื้อกับเขาดีไหม? ทำไมเราถึงยังอยู่ใน Toxic-relationship?

ความสัมพันธ์หวานอมขม คงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่หลายคนเคยเจอ แม้จะรู้ดีว่าความขมและความหวานรสชาติเป็นอย่างไร แต่เมื่อสองขั้วตรงข้ามเข้ามาผสมกันกลับมีสเน่ห์น่าค้นหา จะคายก็ไม่กล้าจะกลืนก็ไม่ลง เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลายคนรอติดตามความสัมพันธ์สุดจะซับซ้อนของ “ยูนาบี” และ “พัคแจออน” สองตัวละครหลักจากซีรี่ย์ชื่อดังใน Netflix อย่าง “Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้” 🤭

เมื่อความรักมาถึงทางตัน ความหวานละลายหายไปเหลือแต่ความขมจึงเกิดเป็นคำถามขึ้นในใจ ว่า “ความสัมพันธ์นี้มันผิดพลาดตั้งแต่ตรงไหนกัน” วันนี้อูก้าอยากชวนทุกคนมาถอดรหัสความสัมพันธ์ผ่าน ‘ผีเสื้อ’ 🦋สัญลักษณ์จากซีรี่ย์เรื่องนี้กัน

“ความสุขก็เหมือนผีเสื้อ เมื่อไหร่ที่เราพยายามไล่จับมันจะหนีไปเสมอ แต่เมื่อไหร่ที่เรานั่งอยู่เงียบ ๆ มันจะมาเกาะที่เราเอง” เป็นคำบอกใบ้ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าผีเสื้อตัวแรกในเรื่องนี้ก็คือ ‘ความสุข’ ที่จะเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้กลายเป็นยาพิษ ☠️

สำหรับนาบีที่เพิ่งเจ็บปวดจากประสบการณ์รักครั้งเก่า เมื่อเธอมาพบกับหนุ่มหล่อแสนอ่อนโยนและเอาใจใส่อย่าง “พัคแจออน” หลังจากต้องเผชิญกับพฤติกรรมสุดจะท็อกซิกของแฟนเก่า ทั้ง “การบังคับควบคุม” หรือการทำตัวเป็นเจ้าของชีวิต แล้วยังจะพยายามกล่าวโทษให้เธอรู้สึกผิดที่ ‘ดูแลตนเองมากไป’ เช่น การทำผม หรือทาเล็บ โดยที่เขาไม่สนใจว่านั่นคือ ‘ร่างกายของเธอ’

แจออนจึงเปรียบเสมือนกับ ‘ก้อนความสุข’ ที่ขาดหายไปในความสัมพันธ์ครั้งก่อน ประกอบกับนิยามความรักที่เลือนรางหลังโดนนอกใจ ความเจ้าชู้แพรวพราวของแจออนเลยกลายเป็นเรื่องที่ ‘ยอมรับได้’ ในความคิดของนาบี ไม่แปลกที่เธอจะยอมกลายเป็นผีเสื้อบินเข้ากองไฟเพื่อไขว่คว้าความสุขนั้นด้วยตัวเธอเอง

“ผีเสื้อดูเป็นสัตว์รักอิสระ 🦋 แต่จริง ๆ แล้วมันจะชอบบินวน ๆ อยู่ที่เดิม ๆ ที่มันคุ้นเคย”

ตอนที่แจออนเลือกจะปล่อยผีเสื้อออกไป แต่มันกลับบินมาเกาะที่นิ้วของเขาแทนที่จะออกไปบินอย่างอิสระ ดูผ่าน ๆ เราอาจจะคิดว่าผีเสื้อตัวนั้นคงเป็นนาบีที่เอาแต่กลับมาหาแจออน ผู้เป็นเหมือนสถานที่ที่คุ้นเคยอยู่ทุกครั้ง แต่หากย้อนไปดูอีกสักครั้งจะเห็นว่าแจออนเองก็ผูกพันกับนาบี จนไม่อาจมี ‘อิสระ’ ทางความรู้สึกที่จะบินไปตอมตรงโน้นทีหรือตรงนี้ทีได้เหมือนเดิม ต่อให้จะบินจากกันไปหลายต่อหลายครั้งก็ทำได้เพียงกลับมาหากันและกันอยู่ดี ผีเสื้อตัวที่สองนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาบีและแจออนเอง

จนกระทั่งนาบีมี “พื้นที่ปลอดภัยใหม่” ในตอนที่เธอเลือกจะหนีกลับบ้านเกิด พบบรรยากาศและเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยอย่าง “ยังโดฮยอก” ประกอบกับแจออนที่ไม่ได้มีแค่นาบีเป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ยังมี “ยุนซอลอา” แฟนเหมือนจะเก่าที่เป็นเหมือนบ้านให้บินกลับ ความลังเลว่าจะกลับไปยังสถานที่ที่คุ้นเคยแห่งไหนดีจึงเกิดขึ้น รั้งให้ความสัมพันธ์ที่ครุมเครืออยู่นั้นต้องเบลอไปมากกว่าเดิม 😢

เมื่อถึงจุดสูงสุดที่ความรู้สึกของคนคนหนึ่งจะรับไหว ทุกสิ่งทุกอย่างเลยต้องการ ‘ความเปลี่ยนแปลง’ และนั่นก็คือผีเสื้อตัวที่สามที่ออกมาบินโลดโผนในช่วงสองตอนที่ผ่านมา

นาบี ที่ได้รับความสบายใจจากครอบครัวและโดฮยอกที่เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนในความรู้สึกเธอมั่นคง ความท็อกซิกที่เธอซึมซับมาจึงเบาบางลง ทำให้เธอได้เห็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ความรู้สึกและคำพูดของโดฮยอกทำให้เธอรู้ว่าตัวเองมีคุณค่ามากกว่าตอนที่อยู่กับแจออน

ขณะเดียวกัน แจออนได้อยู่กับตัวเองตลอดเวลาที่นาบีบินหนีหายไป เมื่อไล่ตามก็พบว่าผีเสื้อตัวนี้กำลังจะบินหนีไปไม่กลับมา เขาจึงรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนแปลงบ้างสักที เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามทำทุกอย่างให้ชัดเจนว่าสำหรับเขานาบีมีความหมายอย่างไร ทั้งป่าวประกาศให้สาธารณะได้รับรู้ ทั้งแสดงความเป็นศัตรูกับโดฮยอกอย่างออกหน้าออกตา ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ดั่งใจคิด เมื่อเผชิญหน้ากับกำแพงความหวาดระแวงที่นาบีก่อขึ้นมา เขาที่เพิ่งหัดแสดงออกจึงได้แต่กลืนความรู้สึกลงไปซะอย่างนั้น

เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์เป็นพิษไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดีขึ้นมา มิหน้ำซ้ำอาจจะแปรเปลี่ยนความรักให้เป็นพลังลบแล้วมาทำร้ายความรู้สึกกันและกัน เหมือนที่นาบีและแจออนเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันมาตลอด ต่างคนก็ต่างไม่ยอมบอกความรู้สึกในใจออกไปอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งไม่ยอมรับฟังกันและกันเลยสักครั้ง จนทำให้มีแต่ความหวาดระแวง ความหึงหวง ไม่เชื่อใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าง “ขอบเขตความสัมพันธ์” ไม่ชัดเจน

เมื่อหลงเข้าไปแล้วครั้งหนึ่ง การจะออกมาจากความสัมพันธ์เป็นพิษนั้นไม่ง่ายอย่างที่ใครอาจจะจินตนาการไว้ เพราะฉะนั้นประโยคที่ว่า “รู้ว่าร้ายแล้วทำไมไม่ออกมา” อาจจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนนัก แต่อย่างน้อยผีเสื้อตัวที่สามหรือความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของนาบีกับแจออนนี้ก็พอจะบอกได้ว่า

“ทุกความผิดพลาดย่อมแก้ไขได้” 🙂

เริ่มต้นจากการยอมรับว่าสิ่งที่เกิดอยู่มันผิด หันเข้าหากันเพื่อเผชิญหน้ากับปัญหาความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา และการหาที่พักใจไว้เป็นแหล่งพลังงานบวกเพื่อฟื้นฟูคุณค่าในตัวเองกลับมาก็เป็นเรื่องที่ดี แต่อะไรก็ไม่สำคัญไปมากกว่า “การตัดสินใจอย่างแน่วแน่” ที่จะเปลี่ยนแปลง

เหมือนที่นาบีพยายามจะแก้ไขการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเอง พัคแจออนที่พยายามแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น หรือแม่ของนาบีที่แม้จะเจ็บช้ำมาเท่าไหร่ก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ส่วนเรื่องราวครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทั้งสองคนจะเริ่มต้นใหม่กันทางไหน ติดตามชมในตอนสุดท้ายพร้อมกันในคืนนี้ได้เลย

เพื่อนคนไหนกำลังติดอยู่ในวังวนแห่งความสัมพันธ์เป็นพิษเช่นเดียวกับนาบีและแจออน อูก้าขอเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง รับฟังและเคารพทุกปัญหาใจอย่างไม่ตัดสิน หากรู้สึกเหนื่อยหรือเจ็บปวดเกินจะรับไหว มาคุยและหาทางออกกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้เสมอ 💙💚

#OOCAinsight #toxicrelationship #nevertheless #SongKang #HanSohee

________________________________⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/gxyH
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ > https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > http://bit.ly/msgfbooca.⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

#แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More

The Shawshank Redemption มิตรภาพท่ามกลางความสิ้นหวังคือพลังแห่งความกล้าหาญ

เมื่อพูดถึง “เพื่อน” หรือ “มิตรภาพ” หลายคนมักจะคิดถึงความทรงจำสมัยเก่าครั้งที่ยังเยาว์วัย ตอนที่ได้ออกผจญภัยสำรวจโลกใบนี้ไปกับผองเพื่อน การเดินทางออกตามหาเรื่องราวและความสัมพันธ์ใหม่ ๆ เรียกได้ว่าช่วงเวลาวัยรุ่นคือยุคทองของความฝัน ความท้าทาย และความสนุกสนาน 💫

แต่พอโตขึ้นมาก็ราวกับว่าโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหวไปดื้อ ๆ

ไร้ความฝัน ไร้ความท้าทาย ไร้ความหวัง ราวกับใช้ชีวิตแต่ละวันให้ผ่านไป ไม่มีเรื่องราวหรือความสัมพันธ์ใหม่ ทุกอย่างเกิดขึ้นซ้ำมาซ้ำไปอยู่อย่างนั้น เช่นเดียวกันกับชีวิตของนักโทษในเรือนจำชอว์แชงค์ จากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง “The Shawshank Redemption ชอว์แชงค์ มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง”

เรื่องราวสร้างจากนวนิยายของนักเขียนแนวสยองขวัญชื่อก้องโลกอย่างสตีเฟ่น คิง (Stephen King) ที่สามารถอธิบายคำว่า “นักโทษ” และ “คุก” ออกมาได้ละเอียดอ่อน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเข้าอกเข้าใจที่จะสามารถมีให้ ‘มนุษย์’ คนหนึ่งได้ ภายใต้บุคลิกที่เฉื่อยชาของ “แอนดี้ ดูเฟรน” (Andy Dufresne) นายธนาคารที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมภรรยากับชู้รักของเธอ ❌

ตัวตนของเขาในเรือนจำสุดโหดที่มีชื่อว่า “ชอว์แชงค์” (Shawshank) และการพบเจอกับเอลลิส เร้ด เร้ดดิ้ง (Ellis Red Redding) นักโทษคดีฆาตกรรม และนักโทษคนอื่น ๆ ในเรือนจำนี้ เผยให้เห็นแง่คิดบางอย่างที่สังคมปัจจุบันอาจจะลืมเลือนไป

สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมและความตึงเครียด ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนกำลังพังลงอย่างช้า ๆ เหลือไว้แต่ความสิ้นหวัง หมดซึ่งศรัทธาต่ออะไรทั้งนั้น ความโกรธเกรี้ยวเนื่องจากความรุนแรง ความขัดแย้งและความอยุติธรรมรอบตัว กำลังบั่นทอนเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของใครหลาย ๆ คนให้สูญสิ้น 😢

เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำชอว์แชงค์ สายตาคนภายนอกที่มองเข้ามาคงเห็นว่าสถานที่แห่งนี้คือแหล่งรวมตัวของพวกเดนตาย ส่วนเกินที่สังคมไม่ต้องการให้มีอยู่ เหล่านักโทษในเรือนจำได้รับการปฏิบัติไม่ต่างอะไรจากสัตว์ในคอก หนึ่งชีวิตที่หายไปจากเรือนจำแห่งนี้ช่างปกติเสียจนไม่มีใครสนใจ เพื่อมีชีวิตอยู่รอดโดยไม่สูญเสียโลกความเป็นจริงไป หลายคนจึงยอมแลก ‘การกลับตัวกลับใจ’ และหันเข้าสู่พฤติกรรมที่หลายคนมองว่า ‘ป่าเถื่อน’ หรือ ‘โหดร้าย’ อย่างสมบูรณ์

ทว่าแอนดี้ ดูเฟรนได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทั้งภายนอกที่เน่าเฟะและภายในที่ชอกช้ำ จนกระทั่งเมื่อรู้ตัวอีกทีสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากโลกภายนอกนัก หากจะให้อธิบายว่าเขาทำอะไร คำตอบที่จะบอกได้ก็คงเป็น “เขานำ ‘ความปกติ’ กลับเข้ามาอีกครั้ง” ความปกติที่มนุษย์ในสังคมปัจจุบันอาจลืมเลือน นั่นคือ “ความห่วงใยและความหวังดีที่มีให้กันและกัน”

สิ่งที่แอนดี้ ดูเฟรนนำกลับมาสู่สถานที่แห่งความสิ้นหวังนี้คือ ‘มิตรภาพและความหวัง’ เขามอบความเป็นไปได้ในการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ย้ำเตือนเหล่านักโทษผู้สิ้นหวังในการ ‘มีชีวิต’ ถึงรสชาติอันหอมหวานของความฝันและความสุข ที่สำคัญที่สุดดูเฟรนมอบ ‘ความกล้าหาญ’ ในการเดินหน้าต่อ ผ่านมิตรภาพที่เป็นเครื่องยืนยันว่าหนทางข้างหน้า  พวกเขาจะไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียว 🙂

ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ‘เพื่อน’ หรือ ‘มิตรภาพ’ สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลาของชีวิต มิตรภาพนี่เองผลักดันให้เรากลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิมและยังสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากมีชีวิตต่อไปในเส้นทางของตนเอง เพราะเชื่อว่าปลายทางข้างหน้าเราจะมาบรรจบกันอีกครั้ง ขอเพียงรู้ว่ามีอีกหนึ่งคนที่พร้อมจะเดินไปกับเรา เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่โลกโยนมาให้แล้ว

เพื่อนคนไหนที่สนใจสามารถติดตามดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างถูกลิขสิทธิ์ที่ได้เน็ตฟลิกซ์ ไทยแลนด์ (Netflix Thailand) และหากใครที่กำลังรู้สึกเช่นเดียวกับผู้คนในชอว์แชงค์ โดดเดี่ยว สิ้นหวัง ไร้ที่พึ่ง อูก้ายังคงอยู่ตรงนี้ พร้อมจะจับมือและย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวตนของทุกคนสำคัญเพียงใด เราจะคอยอยู่เคียงข้าง เป็นที่พักพิงใจให้ทุกคนได้รวมแรงกายแรงใจเดือนหน้าต่อไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเมื่อไรก็ติดต่อมาได้เสมอเลยนะ 💚

เพื่อน ๆ คนไหนที่ชื่นชอบและสนใจติดตามข่าวสาร สาระความรู้ และอีกมากมายที่เราจะนำมาแชร์ให้ทุกคนได้รับชม สามารถติดตามอูก้าที่ LINE Official Account ได้แล้วนะ! แอดเลย 👉🏻 https://oocasea.page.link/mwoj

#OOCAinsight

________________________________⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/rfLq
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ > https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > http://bit.ly/msgfbooca

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More

มากอดกันไหม ? วันที่ใจเราต่างเหนื่อยล้า

‘ถ้าเราหายไปก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง’ 😢

เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกันไหม ? เหมือนเราเป็นเพียงเศษเสี้ยวแสนไร้ค่าเมื่อเทียบกับผู้คนมากมายที่ต่างเดินหน้าไปถึงไหนต่อไหน ยิ่งนานวันไปก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองนั้นเล็กเสียจนหายไปก็คงไม่มีใครรู้

“เหนื่อยมาก เหนื่อยจัง เหนื่อยจริงๆ”

ท่อนหนึ่งจากบทเพลง Hug (กอด) – Seventeen ศิลปินชาวเกาหลีใต้ ทำเอาน้ำตาไหลลงมาโดยที่ไม่รู้ตัว ราวกับเสียงสะท้อนที่อยู่ในใจถูกขับขานออกไปผ่านคำร้องและทำนองที่แสนอ่อนโยน ชวนให้หันกลับไปมองแต่ละก้าวเดินที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เรากำลังใจร้ายกับตัวเองอยู่หรือเปล่านะ ?

สิ่งรอบตัวมากมายกำลังบีบอัดเราให้เล็กลงไปเรื่อย ๆ จนความรู้สึกของเราแตกสลายไปพร้อมกับหัวใจที่เก็บไว้แต่ความเจ็บปวด รู้ตัวอีกทีก็ลืมไปแล้วว่าความสุขเป็นอย่างไร ในตอนนั้นหากมีใครสักคนมากอดเราและถามว่า “เหนื่อยไหม” หัวใจดวงน้อยคงรับไม่ไหวจนเผลอแสดงความอ่อนแอออกไปให้ใครต่อใครได้เห็น

อยากจะบอกออกไปให้ใครต่อใครได้รู้ว่าแต่ละวันที่ผ่านไปมันแสนจะลำบากยากเย็นเพียงใด ว่าหัวใจดวงนี้กำลังจะรับอะไรต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เก็บคำพูดเหล่านั้นไว้ในใจ เพราะมองออกไปก็เห็นแต่คนที่พยายามอย่างหนักเช่นเดียวกัน ยิ่งเห็นแบบนั้นมากเท่าไร ยิ่งเข้าใจความเหนื่อยล้านั้นมากเท่าไร ยิ่งพูดออกไปไม่ได้เท่านั้น

ขอโทษนะที่เป็นคนอ่อนแอ

ขอโทษนะที่เป็นคนไม่เอาไหน

ขอโทษนะที่เป็นคนไม่เก่ง

ขอโทษนะที่เกิดมา

ได้แต่ตะโกนร้องอยู่ในใจ เพราะความคาดหวังมากมายให้เราต้องโตขึ้น ต้องพัฒนามากกว่านี้ ต้องเก่งมากกว่านี้ แต่นานวันเข้าความกดดันกลับเข้ามาแทนที่จนเผลอรู้สึกผิดที่ตนเองไม่เดินหน้าต่อไปไหนเสียที หากใครที่กำลังรู้สึกแบบเดียวกัน ลองกดเปิดเพลงนี้ขึ้นฟังแล้วปล่อยให้ใจได้รับคำปลอบโยนดูสักครั้ง

“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ

ไม่ต้องกังวลอะไร

ไม่ต้องกลัวนะ”

ความอ่อนแอไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ไม่เป็นอะไรเลยหากจะมีสักวันที่เหนื่อยล้าหรือท้อแท้ ไม่เป็นไรเลยที่ไม่ได้เก่งเหมือนคนอื่นเขา เพราะแค่มีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว ขอเพียงยังหายใจ วันพรุ่งนี้และการเริ่มต้นใหม่จะมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นไม่ต้องกลัวไป มาจับมือกันเอาไว้ แล้วเผชิญหน้ากับมันไปด้วยกันนะ

“เพราะสำหรับฉัน เธอนั้นสำคัญมากกว่าใคร”

“แด่เธอ…ที่ผ่านแต่ละวันอย่างยากลำบาก ฉันอยากบอกบางอย่างกับเธอไว้

ว่าเธอยังมีฉัน ว่าเธอทำได้ดีมากแล้ว ว่าฉันรักเธอนะ

และฉันจะกอดเธอไว้เอง”

เช่นเดียวกับชื่อมินิอัลบั้มที่มาในธีม ‘YOU MADE MY DAWN’ ที่ส่งผ่านเสียงสะท้อนของหัวใจมากพร้อมกับความห่วงใยและคำปลอบโยน หวังว่าเพลงนี้จะส่งไปถึงคนที่กำลังฟังอยู่และทำให้อีกหนึ่งวันที่แสนเหนื่อยล้าจบลงไปพร้อมกับความรู้สึกดี ๆ

💎 ฟังเพลง Hug – Seventeen ได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=j69PEX9bzRY

ใครที่เห็นเพื่อนกำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด ก็ลองส่งเพลงนี้ให้เป็นกำลังใจ แทนข้อความว่า ‘ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ’ หรือใครที่กำลังเหนื่อยล้าทั้งกายและใจจากการทำงานมาทั้งวัน ก็ลองเปิดเพลงขึ้นขึ้นมาฟังและอนุญาตให้ตนเองได้ร้องไห้ ระบายความอึดอัดที่เก็บมาตลอดออกไปบ้างสักครั้ง และหากใครที่เหนื่อยกายท้อใจ หันไปทางไหนก็มืดมน อยากได้ใครสักคนคอยรับฟังเรื่องราวและก้าวผ่านวันนี้ไปด้วยกัน อูก้ายังคงอยู่ตรงนี้ พร้อมรับฟังและจับมือทุกคนไว้ ไม่ว่าเมื่อไรก็ติดต่อมาได้เสมอเลยนะ 💚💙

#OOCAinsight

________________________________⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/2zqc
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ > https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > http://bit.ly/msgfbooca.⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More
minari

‘Minari’ ต่อสู้เพื่อเบ่งบาน เมื่อความฝันไม่ใช่ของฉันเพียงคนเดียว

หากใครชื่นชอบวัฒนธรรมของประเทศเกาหลี คงพอคุ้นตากับ ‘มินาริ’ (미나리) หรือผักชีล้อม ที่มักไปโผล่ในซีรีส์หรือรายการวาไรตี้ต่าง ๆ นิยมนำมาปรุงอาหาร เพราะปลูกง่าย ราคาไม่แพง ดูเผิน ๆ เหมือนวัชพืชเพราะมีความทนทานในทุกสภาพแวดล้อม แต่ยิ่งได้ผลัดใบแรกจะยิ่งผลิดอกงอกงาม 🌱

“มินาริสามารถเติบโตได้ทุกที่ แม้ในพื้นที่ว่างเปล่า เอาไปใส่ในแกงอะไรก็อร่อย” คุณยายที่มาพร้อมกับความรักจากประเทศบ้านเกิด ทำให้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นจาค็อบ หัวหน้าครอบครัวที่มุ่งมั่น โมนิกา ภรรยาที่เชื่อใจและสนับสนุนทุกการตัดสินใจของสามี พร้อมทั้งแอนน์และเดวิด ลูก ๆ ที่เติบโตมาแบบสองวัฒนธรรม

ครอบครัวนี้ได้วาดฝันอนาคตร่วมกัน โดยเริ่มจาก “ศูนย์” สะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังต่อสู้กับอะไรที่ไม่คุ้นชินในที่ต่างถิ่นต่างแดน ความไม่คุ้ยเคยอาจทำให้หวั่นใจ แต่เพราะความฝันที่เราแบกไว้นั้นมีขนาดใหญ่กว่าเลยยอมแพ้ไม่ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูรู้สึกเข้าถึงหนังเรื่องนี้ เพราะถ้าให้พูดตรง ๆ สิ่งที่จาค็อบกำลังเริ่มต้นนั้นท้าทายเขาและครอบครัวพอสมควร ที่ดินว่างเปล่ากับความสำเร็จที่เลือนราง จะเป็นอย่างไรหากครอบครัวไม่เคารพการตัดสินใจของเขา ?

เพราะความฝันของเรา อาจมีหลายคนรวมอยู่ในนั้นด้วย 🙂

นอกจากการต่อสู้เพื่อความฝันและการอดทนต่อความยากลำบาก สิ่งสำคัญคือการมีอยู่ของกันและกัน
การมาถึงของคุณยายซุนจา ได้พัดพา ‘กลิ่นเกาหลี’ มายังบ้านหลังนี้ หรือนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของความคิดถึง กลิ่นที่หลาน ๆ ไม่ชอบในตอนแรก กลายเป็นความอบอุ่นที่พวกเขาขาดไม่ได้ คุณยายทำให้เรานึกถึงคำว่า ‘ไม่คุ้นเคยแต่รู้สึกดี’ ลองนึกภาพเด็กที่เติบโตมาแบบอเมริกัน เห็นแต่ภาพคุณยายอารมณ์ดี ชอบอบคุกกี้และไม่พูดคำหยาบ ตัดภาพมาที่การปราฎตัวของคุณยายที่เป็นคนเกาหลีแท้ ๆ ชอบต้มยาสมุนไพร พูดจาโผงผาง ความแตกต่างแบบสุดขั้วและช่องว่างระหว่างวัย กลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ครอบครัวนี้ต้องปรับตัว

หนังเรื่องนี้นำเสนอปัญหาของตัวละครผ่านมุมองของ ‘การอพยพย้ายถิ่นฐาน’ เพื่อไปสร้างความมั่นคงใหม่ แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเมื่อเทียบกับในชีวิตจริงที่อาจมีหลายร้อยพันปัญหาเกิดขึ้นกับเรา อย่างหลาย ๆ ฉากที่สื่อถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน หากเราไม่มองว่าความไม่รู้เป็นเรื่องผิดหรือตัดสินคนอื่นจากความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว เราจะพบว่ามิตรภาพเกิดขึ้นได้และทุกคนก็ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นเช่นกัน


ความรักก่อตัวผ่านการเรียนรู้ ยอมรับ และพยายาม 🥰


บางครั้งปลายทางอาจไม่สำคัญเท่ากับเราผ่านอะไรมาด้วยกัน ความผิดหวัง ท้อแท้ที่เกิดขึ้นในหนังสอนเราว่าการต่อสู้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กว่าความฝันจะสำเร็จก็ไม่ง่ายเลย แต่จะดีแค่ไหนหากในช่วงเวลาที่เราล้มลุกคลุกคลาน ยังมีคนที่รักคอยประคับประคองกันไว้ ในวันที่เราเหนื่อยจนแทบถอดใจ อาจมีพลังของครอบครัวที่ช่วยเติมไฟให้เราอีกครั้ง อย่างที่หนังเรื่องนี้บอกเราว่า ‘แม้จะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่ปล่อยมือ’
มินาริอาจไม่ได้ขยี้ปมครอบครัวจนใจเราเจ็บ แต่ก็ทำให้น้ำตาไหลได้ไม่ยาก เพราะการเริ่มต้นใหม่ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย การให้โอกาสตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งในวันที่ล้มเราไม่จำเป็นต้องตอกย้ำอีกฝ่ายว่าเขาไม่ดีตรงไหน เขาทำอะไรพลาดไป หรือบอกว่าสิ่งที่เขาคิดมันผิด แต่เราอาจบอกเขาได้ว่าจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้นและเราพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เหมือนกับที่ครอบครัวนี้เริ่มต้นจากความโดดเดี่ยวมีเพียงสมาชิกในบ้านที่อยู่เพื่อกันและกัน สุดท้ายความอบอุ่นนี้ก็ถูกส่งต่อไปยังคนอื่น ๆ
‘เติบโตให้ได้อย่างมินาริ’ อาจไม่ได้สวยงามที่สุดในหมู่พืช แต่อดทนและแข็งแกร่งไม่แพ้ใคร

อูก้าเป็นกำลังใจให้ทุกความฝัน ทุกเส้นทางล้วนสวยงามในแบบของมัน เราพร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางที่รับฟังคุณเสมอ สามารถพูดคุยกับเราได้ทุกที่ทุกเวลา แล้วมารวบรวมพลังไปต่อสู้กับความฝันด้วยกันนะ 💙


#OOCAinsight


—————————————

ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/minari
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ Ooca ได้ที่ https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > bit.ly/msgfbooca

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More
บีทีเอส lifegoeson bts เศร้า สุขภาพจิต

“Life goes on” จาก BTS จงใช้ชีวิตต่อไปแม้โลกใบนี้จะใจร้ายกับเรา

“จู่ๆ วันหนึ่งโลกทั้งใบก็หยุดหมุน หยุดโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว

ฤดูใบไม้ผลิไม่รีรอ มาถึงตามเวลาของมันเหมือนเคย

รอยเท้าบนถนนเหมือนกับถูกลบเลือนไป ฉันล้มลงตรงนี้

แต่กาลเวลายังคงเดินต่อไปตามปกติ โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษให้กัน”

.

วง BTS ได้ปล่อยเพลงไตเติ้ลของอัลบั้ม BE ชื่อเพลง “Life goes on” เพื่อบอกเล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับโควิด ทำให้เราเห็นภาพความเคว้งคว้าง ความเหงาในการใช้ชีวิต ไม่มีใครเตรียมใจมาก่อนเลยว่าโลกนี้จะหยุดอยู่กับที่ แต่ฤดูกาลก็ยังหมุนเวียนไปตามปกติ ในขณะที่เราไม่สามารถทำอะไรที่เคยทำได้ นอกจากหายใจเพื่อมอบความอบอุ่นให้ตัวเอง

.

ไม่ใช่แค่สถานการณ์โควิดที่พาเราดำดิ่งไปกับความรู้สึกล้มเหลว สิ้นหวัง แต่หลายๆ คนเคยมีช่วงเวลาแบบนี้ในชีวิต เหมือนเราติดอยู่ในหลุมใดหลุมหนึ่งแบบที่หาทางออกไม่ได้เลย ทั้งที่รอบๆ ตัวมีแต่คนก้าวไปข้างหน้า มีแต่คนที่ดีกว่าและสมบูรณ์แบบกว่าเรา ทำไมเราถึงจมอยู่ตรงนี้ หรือโลกใบนี้ใจร้ายแค่กับเราคนเดียว ?

.

แต่ชีวิตเรามีวันที่เลวร้ายมากมาย เหมือนฝนที่เทกระหน่ำลงมา ฉันพยายามต่อสู้กับมันเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ บางครั้งเราแค่ต้องใช้ชีวิตต่อไปแบบนั้น…แบบที่สั่นไหวและมองไม่เห็นทางออก อย่างท่อนแร็ปในเพลงนี้บอกกับเราว่า

“ฉันคิดว่าถ้าวิ่งให้เร็วยิ่งกว่าเมฆฝนพวกนั้นจะเพียงพอ

แต่ก็เหมือนทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

คงเพราะว่าฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

ฉันอยู่ในโลกของความเจ็บปวดและความหนาวเหน็บที่โลกมอบให้

กระตุ้นให้ฉันปัดฝุ่นหนาที่ปกคลุมออกไป

และฉันก็เต้นไปแบบนั้น แม้ว่าสุดท้ายจะล้มลง”

.

“ฉันมองไม่เห็นทางออกเลย เรื่องต่างๆ เหล่านี้พอจะมีทางออกบ้างไหม ? ฉันก้าวเท้าไปไหนไม่ได้เลย”

นี่คงเป็นประโยคที่แทนความรู้สึกใครหลายคนไม่ใช่แค่โควิด แต่บางเหตุการณ์ในชีวิตก็เหมือนพาเราไปยืนที่ปากเหว ไม่อยากจะถอยหลัง แต่ก็เดินต่อไปไม่ได้ ในใจเราอาจได้แต่ภาวนาให้ใครซักคนพาเราออกไปจากตรงนี้…จากความรู้สึกที่มืดมิดนี้

.

“Like a echo in the forest วันเวลากำลังจะหวนมา

ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น Life goes on”

.

ท่อนนี้มีความหมายลึกซึ้งเชิงปรัชญา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำถามที่ว่า

“If a tree falls in the forest and no one is there, does it makes a sound ?”

ต้นไม้ที่ล้มลงในป่าแต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นหรือได้ยินเสียงมันล้ม ถ้างั้นแปลว่ามันมีเสียงเกิดขึ้นจริงๆ ไหม?

เขาก็นำมาเปรียบเปรยว่าต่อให้ไม่มีใครได้ยิน ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะจบลง เพราะเรามองไม่เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่มีจริง หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ทุกอย่างจะวนกลับไปเหมือนเดิมราวกับที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื้อเพลงกำลังพูดถึงชีวิตที่ดำเนินต่อไปแบบนั้น หลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น

.

หลังความเจ็บปวดเราได้เห็นวันใหม่ปรากฎขึ้น เพราะฉะนั้นถึงเราจะต้องหยุดเดินหรือเจออุปสรรคอะไร เราก็อย่ามัวจมอยู่กับความเศร้า ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรือหลบอยู่ในเงามืดหรอกนะ ยังไงแสงสว่างก็จะส่องมาอีกครั้งและอีกครั้ง แม้ความสุขจะผ่านเราไปอย่างรวดเร็วแต่ความทุกข์ก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไปเช่นกัน

“ใช่ ชีวิตต้องเดินต่อไป”

ฟังเพลง Life goes on – BTS ได้ที่ > https://www.youtube.com/watch?v=-5q5mZbe3V8

ถ้าหากตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเพลงนี้อยู่ ลองเปิดโอกาสให้อูก้าได้ดูแลใจและเป็นเพื่อนที่รับฟังความรู้สึกของคุณเสมอ เราอยากช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพใจที่แข็งแรงและพร้อมใช้ชีวิตต่อไป แบบที่บทเพลงนี้กำลังเยียวยาเราอยู่ มาพยายามไปด้วยกันนะ

#OOCAinsight


ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/lgoblog
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > bit.ly/msgfbooca.

#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์

Read More
คิดได้ในวันที่สายไป จิตวิทยาความรัก ooca

OOCAinsight: กด Undo ตรงไหน? มีทางใดไหมให้แก้ตัว คนๆนี้เพิ่งรู้สึกตัวในวันที่สายไป

ว่ากันว่าความสัมพันธ์ก็เหมือนหนังสือ “อ่านซ้ำเรื่องเดิม ตอนจบก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน” เราจึงเชื่อว่าถ้ามันผิดพลาดไปแล้วคงแก้ไขได้ยาก การทำผิดซ้ำๆ เลยเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจสำหรับทั้งสองฝ่าย ต่อให้จะรักกันมากแค่ไหน ถ้าไม่อยากเจ็บแบบเดิมก็ควรเดินหน้าต่อไป ไม่ย้อนกลับมารักกันอีก

.

กด Undo ตรงไหน มีทางใดไหมให้แก้ตัว

คนคนนี้เพิ่งรู้สึกตัวในวันที่สายไป

มารู้ตัววันที่ไม่มี ที่ตรงนี้เงียบเหงาเท่าไร

โอ้..เธอ กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้หรือเปล่า

.

บังเอิญได้ยินเพลง Undo ของ POP PONGKOOL X WONDERFRAME ซึ่งเราไม่เคยฟังมาก่อน ต้องบอกว่าเป็นเพลงที่เชื่อมโยงได้กับทุกคนจริงๆ พูดถึงความอ้างว้างในวันที่คนสำคัญหล่นหายไป ได้แต่นั่งเสียใจและอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขให้ทุกอย่างเหมือนเดิม เข้าข่าย “รู้ตัวเมื่อสาย” ถือเป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยในเรื่องความรัก หลายคนกว่าจะเจอจุดที่ความสัมพันธ์ลงตัว ย่อมผ่านความผิดหวัง เจ็บปวด สารพัดเรื่องงี่เง่าที่เราทำไปโดยไม่มีเหตุผล รู้ตัวอีกทีเราก็ตอนที่รักษาคนข้างตัวไว้ไม่ได้แล้ว

.

แค่เสี้ยวนาทีที่ไม่ทันห้ามใจ ปล่อยใจไปให้มันทำผิด

ไม่เคยจะคิดว่ามันจะทำให้เรามีวันสุดท้าย

ผิดที่ฉันที่มันไม่รู้ตัว ว่าตัวเองรักเธอเท่าไร

และได้ทำร้ายเธอไปอย่างนั้น

.

แน่นอนว่าเราอยากทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ความสัมพันธ์ รู้สึกรักก็อยากจะรักให้หมดใจ แต่ใช่ว่าเราจะไม่เผลอทำอะไรพลาดไป อะไรที่เราไม่เคยรู้ ไม่เคยเข้าใจมาก่อน แม้จะเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีหรือเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับบางคน แต่อาจนำไปสู่การเลิกราได้เหมือนกัน บางคนโชคดีอาจจะได้โอกาสแก้ตัว ชดเชยสิ่งที่ทำพลาดไป ในขณะที่บางคนก็ต้องเดินจากกันไปตลอดกาล

.

เรื่องวันนั้นที่ฉันได้ทำพลาดไป เพราะฉันที่ทำให้เธอเสียใจ

ถ้าได้ย้อนกลับไปอีกครั้ง จะไม่ยอมให้เธอจากไป

บางอย่างกว่าจะรู้ว่าสำคัญก็คือวันที่เราไม่มีสิ่งนั้นแล้ว เพราะความรักไม่ได้มีแต่ด้านที่สวยงาม นอกจากจดจำเรื่องดีๆ บาดแผลที่สร้างให้กันก็ถูกเก็บไว้เหมือนกัน ถ้าเรื่องราวที่ใจเรารู้ตอนจบว่าจะเป็นยังไง เราคงเลือกที่จะปล่อยให้มันผ่านไปดีกว่า ต่อให้ความรักจะยังอยู่แต่สุดท้ายเราอาจทำได้แค่โหยหากันและกัน

.

ถ้าวันนี้เรามีใครให้รัก ให้ดูแล ขอให้รักษาเขาไว้ดีๆ บอกให้เขารู้ตัวว่าเขามีค่าสำหรับเรา เพราะชีวิตจริงมีแต่เดินไปข้างหน้า ไม่มีปุ่ม Undo ให้แก้ไข ความรู้สึกที่เสียไปก็ไม่มีวันเหมือนเดิม

อูก้าขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ความสัมพันธ์ ดูแลใจตัวเองแล้ว อย่าลืมดูแลใจคนสำคัญด้วยนะ

ฟังเพลง Undo ของ POP PONGKOOL X WONDERFRAME ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=tm2N4gntigI

Read More